อุดรธานี – “ณัฐวุฒิ” ร่วมงานวันเกิด “ขวัญชัย” พร้อมเปิดตัวลูกชายผู้สมัคร สส.เพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

 

ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานี รายงาน ที่สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร 97.50 เมกกะเฮิร์ต หมู่ 11 ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้มีการจัดงานวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 70 ปี นายขวัญชัย สาราคำ และภรรยานางอาภรณ์ สาราคำ สส.เขต 4 อุดรธานี พรรคเพื่อให้ ซึ่งมีอายุครบ 60 ปี พร้อมกับเปิดตัวนายกรวีร์ สาราคำ อายุ 36 ปี สจ.อุดรธานี เพื่อสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย โดยมี นายศราวุธ เพชรพนมพร นายเกรียงไกร ฝ้ายสีงาม นายอนันต์ ศรีพันธ์ นางเทียบจุฑา ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย และสส.เพื่อไทย จังหวัดใกล้เคียง ส.อบจ.อุดรธานี เดินทางมาร่วมงาน มอบของขวัญ และอวยพรวันเกิด รับประทานอาหาร สลับกับการแสดงหมอลำซิ่ง


ต่อมาเวลา 12.30 น. นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย เดินทางมาร่วมงานพร้อมกับนายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ท่ามกลางเสียงกรี๊ดของแฟนคลับพรรคเพื่อไทย ได้รุมล้อมขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ก่อนขออนุญาตกินข้าวเหนียวกับลาบ


นายศราวุธ เพชรพนมพร สส.อุดรธานี เขต 1 พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีกล่าวอวยพรวันเกิดนายขวัญชัย นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย พร้อมกับกล่าวเปิดตัว นายกรวีร์ สาราคำ อายุ 36 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เขต 4 จะสมัคร สส.เพื่อไทย เขต 4 อุดรธานี แทนนางอาภรณ์ สาราคำ แม่ที่จะวางมือทางการเมือง มาดูแลสามีนายขวัญชัย ที่มีอายุ 70 ปี โดยนางอาภรณ์ ให้การยืนยันว่าจริง และยังเปิดตัวนายวัชรพล ขาวขำ ลูกชายนายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี ลงสมัคร สส.เขต 2 อุดรธานี ซึ่งทั้งนายกรวีร์และนายวัชรพล ทั้งสองคนเป็นคนรุ่นใหม่ ขยันทำงาน กระแสการเมืองในปัจจุบันต้องการคนรุ่นใหม่ จึงขอฝากทั้งสองคน “ไก่ตีพันธุ์ดีทั้งคู่ส่งไปสู้รับรองไม่แพ้”
นายก่อแก้ว ขึ้นเวทีอวยพรวันเกิดนายขวัญชัย และกล่าวว่า พึ่งรู้ว่าไม่ใช่เป็นแค่งานวันเกิดนายขวัญชัยเพียงอย่างเดียว แต่เป็นงานเปิดตัวผู้สมัคร สส. คนรุ่นใหม่ ถือว่าเป็นการมาช่วยเสริมแรงแทนคนเก่า ซึ่งคนเก่ายังอยู่ บางคนก็สละให้รุ่นลูกรุ่นหลาน และในอนาคตก็มีอีกหลายคนเข้ามาช่วย ฝากพี่น้องสนับสนุนด้วย


ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้ควงนายขวัญชัย และ สส.พรรคเพื่อไทยขึ้นเวทีร่วมถ่ายรูปเป็นที่ละลึก เสร็จแล้ว ได้กล่าวว่า ไม่ได้มาอุดรธานีหลายปี ไม่ได้มาหาพี่น้องและมายืนพูดแบบนี้ วันนี้มาให้กำลังใจ และมายืนเคียงข้างพี่ชายชื่อขวัญชัย ไพรพนา คนที่จบการศึกษา ป. 4 ราษฎรเต็มขั้น ต่อสู้ทำกิน ใช้ชีวิตเอาแรงแรกเงิน อาบเหงื่อต่างน้ำ ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะมาเป็นแกนนำต่อสู้อยู่ในขบวนการประชาธิปไตย จะต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ติดคุกติดตะราง ไม่เคยนึกว่าจะใส่เสื้อสีเดียวกันเข้ากรุงเทพฯ ท่ามกลางเสียงค่อนแคะ เสียงประณามว่าไม่ประสีประสาทางการเมือง เป็นแค่ม๊อบรับจ้าง คนถูกจ้าง ล้างสมอง เป็นคนไม่มีค่า แม้จะถูกไล่ยิงไล่ฆ่าก็ตาม ผ่านมา 10 กว่าปี เรายังอยู่ด้วยกันที่นี่ นายขวัญชัยที่จบ ป.4 ยังรู้เรื่องประชาธิปไตยมากกว่าทหาร ทำให้นายขวัญชัย ปลาบปลื้มใจจนหลั่งน้ำตา


นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า แต่หลังจากนี้ ในการเลือกตั้งต้องแลนสไลด์ ถ้าแลนด์สไลด์แล้วเขาไม่ให้ประชาชนจัดตั้งรัฐบาลของตัวเองจากการเลือกตั้ง อะไรจะเกิด ก็ให้มีนเกิด วันนี้เรายกเอาความแพ้ชนะของพรรคการเมืองออกมา รวมทั้งบทวิเคราะห์ ว่าพรรคไหนอยากหาร 100 พรรคไหนอยากหาร 500 ออกมาก่อน วันนี้พูดถึงหลักการและข้อเท็จจริงสั้นๆ จะได้เห็นภาพชัด บัตร 2 ใบ เขต 400 ปาตี้ลิสต์ 100 คะแนนรวมทั้งหมดมาหาร 100 นั่นคือตรงนั้น เราไม่ได้พูดว่าเพื่อไทยอยากหาร 100 เพราะได้เปรียบ พลังประชารัฐอยากหาร 500 เพราะเอาเปรียบ
“ข้อเท็จจริงก็เห็นชัดอยู่ พูดให้ชัดเจนกว่านั้น กลับไปสู่กติกาที่มันชอบธรรม ถูกต้อง และสู้กันให้ประชาชนตัดสินใจ แต่เหตุการณ์ทำท่าจะไม่เป็นแบบนั้น เลยมีการแก้รัฐธรรมนูญ 1 รอบ ตอนแก้บอกว่าจะหาร 100 เพราะเขาเชื่อว่าจะชนะ พออยู่มาเพื่อไทยประกาศแลนด์สไลด์ เพื่อไทยเดินสาย เพื่อไทยช่วยกันแสดงศักยภาพ เลยกลัวแพ้ มีการพลิกกลับหาร 500 ดังนั้นไม่ต้องกังวล อาจจะหาร 750 หรือ หาร 800 หัวใจประชาชนไม่อยากมีตัวหารก็แล้วกัน ถ้าจะชนะเผด็จการ เอารัฐบาลประชาธิปไตยกลับมา เอานโยบายการแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรมกลับมา หัวใจใส่เต็มๆ ไม่หาร 100 ไม่หาร 500 หนึ่งคน 1 เสียง กาเพื่อไทย ให้มันแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน” ท่ามกลางเสียงปรบมือโห่ร้องของประชาชนที่มาร่วมงาน