บึงกาฬ – หนุ่มลักลอบขนไม้พะยูงโดนทหานพรานบุกรวบพร้อมของกลางเต็มรถ

หนุ่มใหญ่ขับรถรับจ้างส่งของบริษัทเอกชนหาลำไพ่พิเศษ ซื้อไม้พะยูงจากอำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด หวังนำมาส่งลงเรือข้ามน้ำโขงไปขายประเทศเพื่อนบ้าน ถูกทหารพรานร่วมกับหน่วยข้างเคียงตั้งด่านตรวจ จึงถูกจับกุมพร้อมไม้พะยูงเต็มตู้ทึบ จำนวน 60 ท่อน ปริมาตร 1.964 ลบ.ม.อ้างซื้อมาจากที่ดินมีเอกสารสิทธิ์ แต่ไม่มีมาแสดง จึงถูกส่งตัวดำเนินคดี

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 23 ก.พ.พ.อ.อุทัย นิลเนตร ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 21 สืบทราบว่าจะการลักลอบขนไม้พะยูงหวงห้าม เข้ามาในพื้นที่เพื่อส่งขายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านเส้นทางเข้าหมู่บ้านหาดแฮ่ หมู่ที่ 3 ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ จึงสั่งการให้ ร.ท.วิทยากร ศักดิ์ดาเดช ผบ.ร้อย.ทพ.2107 และ ร.ต.หาญชัย จอมคำสิงห์ ฉก.ทพ.21 ประสานกับ นายอดุลย์ นามแสง นอภ.บุ่งคล้า พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ วิริยะเขษม ผกก.สภ.บุ่งคล้า ร.ต.ต.พรศักดิ์ กุศลสูงเนิน รอง สว.(ป.) กก.3 บก.ปทส.ร.ต.ฉัตรชัย ชาญเขว้า ผบ.สกัดกั้นที่ 1 กกล.สุรศักดิ์มนตรี นายสุรัตน์ วิเศษลา ผอ.ศูนย์ป่าไม้บึงกาฬ นายพงษ์ดนัย อาจหาญ ปลัดฝ่ายป้องกัน นำกำลังร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณทางเข้าหมู่บ้านหาดแฮ่เชื่อมกับถนนทางหลวงสาย 212 บุ่งคล้า-บ้านแพง กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 45 นาทีรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิไตรตันสีขาว ทะเบียน ผอ.5095 ขอนแก่น กระบะด้านท้ายเป็นตู้ทึบคล้ายรถส่งสินค้า เจ้าหน้าที่จึงออกจากที่ซ่อนมาโบกรถให้หยุดพร้อมแสดงตัวขอตรวจค้น ทราบชื่อคนขับ นายวินิจ บุตรจันทร์ อายุ 45 ปีบ้านเลขที่ 268 หมู่ที่ 2 บ้านบุ่งคล้าทุ่ง ต.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ เปิดกระบะตู้ทึบพบไม้พะยูงสภาพใหม่เป็นท่อนจำนวน 60 ท่อน ความยาวประมาณท่อนละ 1-150 เซนติเมตร จึงยึดไว้เป็นของกลางพร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สอบสวนเบื้องต้นนายวินิจ อ้างว่าซื้อไม้พะยูงมาจากอำเภออาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด ซื้อมาจากเจ้าของไม้ที่มีเอกสารสิทธิ์ทั้งโฉนดและน.ส.3 อย่างถูกต้อง แต่เมื่อขอดูหลักฐานการขออนุญาตตัดและขออนุญาตขนย้ายมาจากต้นทางและปลายทางก็ไม่มี จึงยึดไม้ไปตรวจนับที่กองร้อย ทพ.2107 นับได้ปริมาตร จำนวน 1.964 ลูกบาศก์เมตร แจ้งข้อหา 1.ตามมาตรา.11 ผู้ใดทำไม้ หรือเจาะ หรือสับ หรือเผา หรือทำอันตรายด้วยประการใด แก่ไม้หวงห้าม 2 มาตรา 48 ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ห้ามมิให้ผู้ใดแปรรูปไม้ ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ ตั้งโรงค้าไม้แปรรูปมีไม้สักแปรรูปไม่ว่าจำนวนเท่าใดไว้ในครอบครอง หรือมีไม้แปรรูปชนิดอื่นเป็นจำนวนเกิน 0.02 ลบ.ม.ไว้ในครอบครอง เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในกฎกระทรวงและในการอนุญาต และ3 มาตรา 70 ผู้ใดรับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่ายหรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่า เป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มา โดยการกระทำผิดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บุ่งคล้า ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.