เมื่อเวลา10.00น.วันที่ 14 มกราคม 2565 ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี ชั้น 1 อาคาร 1 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายจารุพงษ์ อ่ำทิม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 226 หมู่ 1 ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมผู้เสียหายรวม 5 คน จาก จ.เลย บึงกาฬ มุกดาหาร และอุบลราชธานี เดินทางมาร้องยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ต่อนายตฤณ เบ็ญจจินดา นิติกรศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี หลังจากจ่ายเงินดาวน์รถกระบะพร้อมตกแต่งเป็นรถฟู้ดทรัค แต่ไม่ได้รถยนต์ตามที่ตกลงกัน ถูกพนักงานขายบ่ายเบี่ยงตลอด เมื่อเข้าไปสอบถามโชว์รูมกลับไม่รับผิดชอบ โดนผู้จัดการด่าว่า “คุณโง่เอง” จึงรวมกลุ่มผู้เสียหายจากทั่วประเทศไปแจ้งความดำเนินคดีกับเซลล์จนถึงที่สุด และต้องการโชว์รูมรถดังกล่าวออกมาแสดงความรับผิดชอบ
นายจารุพงษ์ บอกว่า ตนเปิดร้านสเต็กใน จ.อุดรธานี อยากซื้อรถฟู้ดทรัคไปจัดร้านให้สวยงาม เดือนตุลาคม 2564 มีพนักงานขายชายของโชว์รูมขายรถบรรทุก 4 ล้อเล็กยี่ห้อดัง มีชื่อแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี นำรูปรถและโปร์โมชั่นไปลงประกาศในเพจกลุ่มรถบรรทุกเล็ก “ฟู้ดทรัค” ซึ่งตนเป็นสมาชิกในกลุ่ม และยังไลฟ์สดขายในโชว์รูม จึงเข้าไปติดต่อที่โชว์รูม ตั้งอยู่ถนนมิตรภาพ (อุดรธานี –ขอนแก่น) และพบกับพนักงานขายชายชื่อต้นกล้า ที่ไลฟ์สดขาย พูดคุยสอบถามลายละเอียดโปรโมชั่นเรื่องราคารถและค่าต่อเติมรถ จนพอใจจึงวางเงินจอง 3,000 บาท ซึ่งมีการออกใบเสร็จรับเงิน และติดต่อบริษัทไฟแนนซ์ให้ไปตรวจสอบเครดิตและดูธุรกิจของตน
ก่อนวางเงินดาวน์ ตนได้โทรศัพท์ไปตรวจสอบเครดิตที่ไฟแนนซ์ ซึ่งแจ้งกลับมาว่าเครดิตตนผ่าน จึงได้วางเงินดาวน์กับนายต้นกล้าที่โชว์รูมรถ 56,000 บาท โดยออกใบเสร็จรับเงินให้ พร้อมกับถ่ายรูปกับรถฟู้ดทรัคไว้เป็นหลักฐาน แต่พนักงานขายได้เก็บหลักฐานทั้งหมดไว้เอง กระทั้งปลายเดือนตุลาคม ผู้จัดการโชว์รูมรถได้โทรศัพท์มาสอบถามตนว่า ยังจะเอารถที่จองไว้หรือเปล่า ถ้าจะเอารถที่จองไว้ให้มาจ่ายเงินดาวน์ ตนแจ้งว่าจ่ายเงินดาวน์ให้นายต้นกล้าไปแล้ว ซึ่งทางโชว์รูมบอกไม่ได้รับ ตนจึงเข้าไปที่โชว์รูมพบผู้จัดการผู้หญิง ซึ่งผู้จัดการแจ้งว่าทางโชว์รูมไม่ได้รับเงินจอง ที่ตนโอนให้พนักงานขายและยังว่าให้ตนว่า พวกคุณโง่เอง “
นายจารุพงษ์ บอกต่อว่า หลังรู้ว่าถูกพนักงานขายหลอก ตนจึงขอบัตรประชาชนนายต้นกล้า เพื่อจะนำไปแจ้งความดำเนินคดี แต่ผู้จัดการไม่ยอมให้ อ้างว่าได้ส่งเอกสารนายต้นกล้าไปสาขา จ.สกลนครแล้ว ทางโชว์รูมไม่รับผิดชอบใดๆ ทำให้โต้เถียงกันเสียงดัง ซึ่งพอดีมีผู้ชายชื่อเปา เดินมาถามว่ามีเรื่องอะไร ตนจึงเล่าให้ฟัง คนชื่อเปาจึงได้นำสำเนาบัตรประชาชนของนายต้นกล้ามาให้ตนมาแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งวันที่ 31 ตุลาคม 2564 โชว์รูมได้ลงรูปนายต้นกล้าในเพจโชว์รูมว่าได้พ้นสภาพพนักงานแล้ว ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบการกระทำใดๆ ทั้งสิ้น แต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ตนยังพบนายต้นกล้าไลฟ์ขายรถในโชว์รูม แต่โชว์รูมยังอ้างว่า นายต้นกล้าไลฟ์ส่วนตัวไม่เกี่ยวกับโชว์รูม
พอเห็นการพ้นสภาพของต้นกล้า ผู้เสียหายทั่วประเทศจึงได้รวมกลุ่มกันตั้งไลน์ผู้เสียหายจากการดาวน์รถแล้วไม่ได้ พบว่ามีทั่วประเทศประมาณ 20 คน โดยโอนเงินดาวน์รถผ่านโมบายแบงก์กิ้ง มีหลักฐานการโอนทุกอย่าง เสียหายตั้งแต่ 36,800-104,000 บาท ซึ่งนายต้นกล้าได้โทรศัพท์ไปหาผู้เสียหายทุกคน อ้างว่านำเงินที่ใช้ดาวน์ไปต่อเติมรถให้หมดแล้ว หรือโชว์รูมสั่งต่อเติมรถไม่ทัน เพื่อประวิงเวลา แต่ทั้งนายต้นกล้าไม่คืนเงินจอง และเงินดาวน์ ส่วนโชว์รูมไม่ออกมารับชอบอะไรเลย ทั้งที่นายต้นกล้าเป็นพนักงานขายของบริษัท แถมมีการโอนเงินทำสัญญาจองในบริษัท พอลูกค้าไปสอบถามโชว์รูมรถต่างสาขา ก็ทราบว่านายต้นกล้ามีประวัติหลอกลูกค้าลักษณะนี้มาก่อน แต่ทำไมโชว์รูมนี้ยังรับเข้ามาทำงาน ลูกค้าจะทำอะไรนายต้นกล้ารู้หมด หรือว่าทำเป็นขบวนการ “
นายจารุพงษ์ บอกด้วยอารมณ์โมโหว่า เพราะเราเชื่อถือบริษัทของพวกคุณ มีโชว์รูมที่อยู่แน่นอน จึงได้จ่ายเงินจองและเงินดาวน์ แต่พอพนักงานโกงลูกค้า กลับไม่ออกมารับผิดชอบ ผู้เสียหายทุกคนไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายต้นกล้า พนักงานขาย และได้นัดกันเดินทางมาร้องศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี เพื่อให้เรียกโชว์รูมรถดังกล่าวออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่ามีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก
นายตฤณ เบ็ญจจินดา นิติกรศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า แยกออกเป็น 2 กรณี คือผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีกับนายต้นกล้า พนักงานขาย ซึ่งให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเรื่องความรับผิดชอบโชว์รูมรถ เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังโชว์รูมรถดังกล่าว ซึ่งโชว์รูมรถจะส่งตัวแทนเข้ามาพูดคุยกับตัวแทนผู้เสียหาย โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม เป็นสักขีพยาน ในเวลา 14.00 น. วันที่ 17 มกราคม 2564 ทำให้ผู้เสียหายพอใจและแยกท้ายเดินทางกลับ