เมื่อเวลา10.00น.วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ร.ต.อ.นิคม ยะจอม รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุคนยิงปืนและพยายามฆ่าตัวตายบริเวณสามแยกถนนชนบทบำรุง ตัดกับถนนพลับผือ เขตเทศบาลตำบลบ้านผือ จึงนำกำลังตำรวจ ปกครอง รุดไปที่เกิดเหตุ โดยพบชาวบ้านกำลังมุงดู พบนายประชิต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุขภาพประจำตำบลโนนทอง อ.บ้านผือ สวมเสื้อสีเหลือง ผ้าพันคอสีเหลือง กางเกงขายาวสีดำ นั่งคุกเข่าอยู่ตรงกลาง 3 แยก หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ 10 ตำรวจได้กันประชาชนออกจากพื้นที่ให้ให้ห่างวิถีกระสุน
โดยนายประชิตได้มือขวาถือปืนขนาด .38 นิ้ว พร้อมกับหันหน้าไปไหว้พระบรมฉายาลักษณ์ ร. 10 จากนั้นได้หันมาพูดระบายความในใจ เพื่อนร่วมงานกล่าวหาว่าไม่รักสถาบัน จะฆ่าตัวตายหน้าต่อพระบรมฉายาลักษณ์ ซึ่งอยู่กลางตัวอำเภอบ้านผือ ตำรวจได้พูดจาเกลี้ยกล่อมให้วางปืน แต่นายประชิตไม่ยอมและยังพูดระบายความในใจ พร้อมกับยิงปืนขึ้นฟ้า 4 นัด ตำรวจจึงตามนางศศิธร ภรรยา นายประชิต ซึ่งเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลบ้านผือ รุดมาที่เกิดเหตุ โดยมีเพื่อนร่วมงานเดินทางมาสมทบ
นางศศิธรเข้าไปนั่งพูดจาเกลี่ยกล่อม แต่ยังไม่ยอมวางปืนแถมยังยิงปืนขึ้นฟ้าอีก 1 นัด และยังระบายไปเรื่อยแล้วยกปืนยิงขึ้นฟ้าดังแชะ จึงจ่อปืนมาเข้าขมับและเหนี่ยวไกลอีกหวังระเบิดสมอง แต่ปืนดังแชะอีก จึงวางปืนลงพื้นมือล้วงเข้าไปในกระเป๋าคาดว่าจะเอากระสุนปืนมาใส่ ตำรวจจึงอาศัยจังหวะดังกล่าว เข้าชาร์ตควบคุมตัว และยึดอาวุธปืน นำตัวขึ้นรถกู้ชีพส่งโรงพยาบาลบ้านผือ เพื่อสงบสติอารมณ์
ร.ต.อ.นิคม ยะจอม รอง สอบสวน สภ.บ้านผือ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายประชิตได้โพสต์เรื่องไม่ดีลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งมีรูปสถาบันอยู่ด้านหลัง ทำให้เพื่อนร่วมงานไม่พอใจ และต่อว่านายประชิตว่าไม่รักสถาบัน ทำให้นายประชิตเครียดมาก และวันนี้บอกว่าจะมาฆ่าตัวตายหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ แต่โชคดีที่ลูกปืนหมด จึงไม่เสียชีวิต ส่วนอาวุธปืนเป็นของนายประชิตซึ่งซื้อมาถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อนายประชิตสงบสติอารมณ์ได้แล้ว จะนำตัวมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดี “พกพาอาวุธปืนมาในเมือง หมู่บ้าน ที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน และที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
#อีสานเดลี่ออนไลน์
