นครพนม(ชมคลิป)โคกหนองนา Style ผู้นำต้องทำก่อน


นายไพรวัล ต้นใหญ่ กำนันตำบลท่าค้อ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ตนเองได้เข้ามารับตำแหน่งเป็นกำนัน ก็ได้รับโอกาสจากผู้บังคับบัญชาให้ไปเรียนรู้เกี่ยวกับ โคก หนอง นา ซึ่งก็ได้นำมาพัฒนาในหมู่บ้านเพื่อเป็นครัวเรือนต้นแบบ สิ่งที่ตนเองประทับใจหลังจากไปได้ศึกษาดูงาน คือ บางแห่งไม่มีน้ำเลย พอผ่านไป 2 ปี กลับไปอีกครั้งปรากฏว่ามีน้ำเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ตนเองยอมรับว่าทฤษฎีที่พ่อหลวงคิดขึ้นมานั้นถูกต้องแล้ว และภายในหมู่บ้านก็ไม่เชื่อว่าบริเวณนี้จะมีน้ำเพราะปกติในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม แทบจะไม่มีน้ำไว้ดื่มแต่หลังจากที่ตนเองทดลองทำปรากฏว่าปีที่ผ่านมา น้ำมีเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญคือเราต้องรู้จักวิธีการบริหารจัดการน้ำ ถ้าเรารู้จักเก็บกักน้ำไม่ให้ไหลลงไปที่ลำห้วยทั้งหมด มีการพักน้ำตามจุดต่าง ๆ ก็จะทำให้น้ำอยู่ในทุ่งนาตลอด เมื่อมีน้ำเราก็สามารถเพาะปลูกอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ
โคก หนอง นา เป็นทฤษฎีใหม่ที่คนในหมู่บ้านบางส่วนยังไม่รู้ แต่ปัจจุบันชาวบ้านมีการตื่นตัวมากขึ้น เพราะเห็นผลที่ได้จากแปลงเกษตรของตนเองเพราะคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นมาได้ โดยหลังจากที่ไปอบรมมาตนเองก็เริ่มลงมือทำทันทีประมาณเดือนกรกฎาคมใช้เวลาประมาณ 1 ปี ก็เริ่มได้ขายสินค้าแล้ว เริ่มจากการขายกล้วยที่หลังแจกจ่ายให้ญาติพี่น้องไปรับประทานและเอาไปทำบุญ ส่วนปลาที่เลี้ยงไว้ก็ให้สามารถแบ่งปันเพื่อนฝูงไปทำอาหาร เอาไปทำบุญได้เช่นเดียวกัน ซึ่งตนเองคิดว่าถ้ามีการปิดหมู่บ้านเป็นเดือนเพราะสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด ก็สามารถอยู่ได้ เพราะมีผลผลิตในแปลงโคก หนอง นา ที่เพียงพอต่อครอบครัวและชุมชน
สำหรับการทำโคก หนอง นา นั้น ทุกคนต้องลงมือทำเองและก็ต้องอาศัยความอดทน อย่าใจร้อนอยากเห็นผลเร็วเหมือนคนที่ทำก่อนหน้า ซึ่งเค้าใช้เวลานานกว่าจะได้ขนาดนั้น ซึ่งขอยืนยันว่า โคก หนอง นา เป็นสิ่งที่ทำได้จริง ทำแล้วเกิดผลประโยชน์ อีกอย่างคือทำให้สุขภาพร่างกายของคนดี ยิ่งช่วงนี้ที่คนชอบออกมาอยู่ตามท้องไร่ท้องนา ก็อยากให้ทำการเกษตร ปลูกกล้วย ปลูกพืชผักสวนครัวไม่ทำขนาดเป็นโคก หนอง นา ก็ไม่เป็นไร เพราะนั้นหมายถึงแหล่งอาหารสำหรับทุกคน แต่ถ้าอยากทำตนเองก็ยินดีสนับสนุนสามารถมารับกิ่งพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ที่แปลงตนเองมีไปปลูกได้ หรือถ้าใครอยากมาดู มาเรียนรู้มา ศึกษาตนเองก็พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพราะบางอย่างชาวบ้านที่มีอายุเยอะจะมีประสบการณ์มากว่า โดยในปีนี้ตัวเองก็มีการทำในหลายๆ สิ่งหลาย ๆ เพิ่มขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น การทำนาที่แต่ก่อนเคยใช้สารเคมี 100 เปอร์เซ็นต์ ปีนี้ก็ลดลงมาเหลือประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวานคนเกี่ยวข้าวที่มารับจ้างก็สอบถามว่า ทำไมทำนาเท่าเดิมแต่ได้ปริมาณข้าวเยอะขึ้นกว่าปีที่แล้ว ซึ่งแปลงนาตรงนี้พอเราไม่ใช้สารเคมีนอกจากจะลดต้นทุนแล้วยังทำให้สุขภาพของเราดีขึ้นด้วย ที่สำคัญคือตนเองทำแปลงในลักษณะทดลองเปรียบเทียบให้ชาวบ้านเห็นว่าทำตามสูตรพระราชาเป็นอย่างไร
ส่วนเวลาประชุมผู้นำหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นการประชุมผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ก็จะนำทุกคนมาอบรมมาเรียนรู้อยู่ที่แปลงเกษตรเลย ให้ทุกคนได้รู้ได้เห็น และพยายามขอร้องให้ทุกคนปลูกพืชผักสวนครัวรั้วกินได้ ปลูกคนละอย่างสองอย่างแล้วนำผลผลิตที่ได้มาแลกเปลี่ยนกัน เพราะการทำเช่นนี้นอกจากจะเป็นการรับนโยบายจากผู้บังคับบัญชามาให้ชาวบ้านทำ ถ้าตัวเองไม่ปลูก ชาวบ้านเขาก็ไม่ยอมทำตาม เพราะฉะนั้นผู้นำต้องทำก่อน ยิ่งเราทำเวลาเราพูดก็จะทำให้ชาวบ้านมีความเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

#อีสานเดลี่ออนไลน์