จากกระแสไม้ด่างที่กำลังมาแรงและเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มคนรักไม้ด่าง ทำให้ใน 3 อำเภอของจ.ชัยภูมิ เช่นอ.หนองบัวระเหว อ.ซับใหญ่ และ อ.เทพสถิต มักจะมีข่าวการถูกลักขโมยไม้ด่างเพิ่มขึ้นบ่อยครั้ง
ขณะเดียวกันร้านขายของชำแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 3 บ้านโนนสะอาด ต.ซับใหญ่ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ได้โพสต์เตือนภัยว่า มีคนขับ รถจยย.พ่วงข้างเป็นผู้ชายรูปร่างผอมได้แอบมาขโมยเอากระถางต้นไม้ ซึ่งวางอยู่หน้าร้านไปจำนวน 4 กระถาง แล้วนำขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างหลบหนีไป
ล่าสุด นางพุฒหอม พระแก้ว อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 102 หมู่ที่ 1 บ้านนายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ หนึ่งในผู้เสียหาย ได้พาผู้สื่อข่าวเดินตรวจสอบจุดที่คนร้ายก่อเหตุขโมยไม้ด่างและบอนสีหายไป
พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเองตื่นมาเปิดร้านขายอาหารตามปกติ และสังเกตเห็นว่าที่บริเวณหน้าร้านต้นไม้บางกระถางและบอนสี จำนวนหนึ่งหายไป จึงเปิดกล้องวงจรปิดดูพบว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.17 น. มีคนร้ายย่องเข้ามาขโมยต้นไม้โดยยกไปทั้งกระถางอย่างใจเย็นแล้วเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์พว่งข้างที่เพื่อนติดเครื่องรออยู่ นับแล้วรวม 6 ต้น มีทั้งต้นบอนสีใบด่าง สายพันธ์ เจ้ากงไกเฌอ และ พันธ์หกหลง ซึ่งตนตั้งไว้เพื่อประดับหน้าร้านไม่คิดว่าจะมีคนร้ายมาขโมย คิดเป็นมูลค่ากว่า 7,000 บาท นอกจากนี้ในเขตบ้านนายางกลัก ถูกโจรแสบรายนี้ขโมยต้นไม้ในคืนเดียวกัน 5-6 ร้านที่เปิดร้านริมทาง
หลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจึงนำมาโพสต์ในโลกออนไลน์เพื่อเตือนให้ร้านค้าต่างๆโดยเฉพาะร้านกาแฟที่มักจะนำต้นไม้มาวางไว้หน้าร้านเพื่อความสวยงาม ไม่คิดว่าจะเป็นการล่อให้คนร้ายเข้ามาขโมยไปได้ หลังจากนี้จะนำต้นไม้ทั้งหมดไปไว้ที่หลังบ้านเพราะเกรงว่าหากยังวางไว้จะเป็นการล่อให้คนร้ายมาก่อเหตุอีก หรืออาจเลยเถิดไปขโมยทรัพย์สินอย่างอื่นของตนและเพื่อนบ้านได้ แม้มูลค่าความเสียหายอาจจะไม่มากนัก แต่ถือว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล หลังจากเกิดเหตุตนก็ไม่ได้เข้าแจ้งความแต่อย่างใด เพราะความเสียหายไม่มากนัก แต่นำมาโพสต์เพื่อเตือนภัยให้ชาวบ้านได้ช่วยกันระวังเท่านั้น
วิรัตน์ ดวงแก้ว จ.ชัยภูมิ รายงาน