วันที่ 28 ตุลาคม 2564 ที่ศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม บรรยากาศยังคงเป็นไปด้วยความคึกคักของคณะครู นักเรียนและประชาชนที่มารับบริการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะในห้วงนี้ที่บุคคลากรทางการแพทย์ต่างพยายามเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กนักเรียนที่มีอายุ 12- 18 ปี ที่มีความสมัครใจ และผู้ปกครองให้ความยินยอม เพื่อสร้างเกราะป้องกันให้ทุกคนมีความปลอดภัยจากไวรัสโควิด เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียน รวมถึงการฉีดวัคซีนให้กับคณะครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่ทางกระทรวงศึกษาธิการกำหนดในการเปิดโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา
โดยปัจจุบัน ข้อมูล ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2564 จังหวัดนครพนมสามารถดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนอายุ 12-18 ปี ไปแล้ว 31,612 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 54,727 คน ส่วนคณะครูอาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา 8,625 คน ฉีดไปแล้ว 6,794 คน โดยในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ทุกแห่ง ยังไม่สามารถเปิดทำการสอนได้ตามปกติ เนื่องจากจำนวนการรับวัคซีนยังไม่เป็นไปตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด ทั้งนี้ทางคณะกรรมการโรคติดต่อได้มีการมอบหมายให้นายอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลและคณะกรรมการโรคติดต่อระดับอำเภอ เป็นผู้ประเมินพิจารณาการเปิดการเรียนการสอนในโรงเรียนของแต่ละพื้นที่ซึ่งโรงเรียนต้องมีความพร้อมตามมาตรการที่นอกจาก นักเรียน ครู อาจารย์ บุคคลากรทางการศึกษาต้องได้รับวัคซีนไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 แล้ว ต้องผ่านการประเมิน Thai Stop COVID Plus มีการรายงานการติดตามการประเมินผลผ่าน MOECOVID มีการจัด School Isoletion มีการควบคุมการเดินทางอย่างเข้มข้น จัด Screeming Zone และมีระบบแผนการติดตาม ทั้งก่อนและระหว่างดำเนินการ มีการเตรียมพร้อมสำหรับการคัดกรองทุกคนก่อนเข้าโรงเรียน เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ที่จะมีการพิจารณาเป็นรายโรงเรียนในวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ในที่ประชุมใหญ่อีกครั้ง ก่อนจะอนุมัติให้เปิดการเรียนการสอนได้เมื่อโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาไหนมีความพร้อม คาดว่าจะสามารถเปิดเรียนได้ในสัปดาห์ถัดไป โดยภายหลังอนุญาตให้เปิดโรงเรียนแล้วยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง