เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ขณะนี้พบว่า อ่างเก็บน้ำทั้ง 16 แห่ง มีปริมาณน้ำเก็บกักเกินกว่า 100% และไหลล้นสปิลเวย์แล้ว จำนวน 14 แห่ง ส่วนอีก 2 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำห้วยตาจู อ.ขุนหาญ มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 98.78% ของความจุเก็บกัก และอ่างเก็บน้ำหนองสิ อ.ขุนหาญ มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 99.69% ของความจุ ขณะที่เขื่อนราษีไศล อ.ราษีไศล มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 111.41% ของความจุเก็บกัก และเขื่อนหัวนา อ.กันทรารมย์ มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 156.67% ของความจุเก็บกัก
ส่งผลทำให้น้ำที่ไหลมาตามลำห้วยต่างๆ และลำน้ำมูล รวมถึงลำน้ำชี มีปริมาณน้ำสูงขึ้น ทำให้ไหลเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ไร่นา และบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับผลกระทบในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณริมฝั่งแม่น้ำมูลบริเวณสะพานบ้านแก้ง ต.คูซอด อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ถูกน้ำไหลเอ่อเข้าท่วมนาข้าวที่กำลังสุกจมอยู่ใต้น้ำ ชาวบ้านต้องช่วยกันมุดน้ำลอยคอเร่งเก็บเกี่ยวขึ้นมาจากใต้น้ำเพื่อลดความสูญเสีย เท่าที่จะสามารถเก็บเกี่ยวได้
ขณะที่ นายณัทเศรษฐ์ ถิรวัฒน์ธนกร ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหัวนา (เขื่อนหัวนา) กล่าวว่า น้ำที่ไหลมาจากแถบเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้เริ่มไหลมาถึงพื้นที่เขตเมืองศรีสะเกษแล้ว ประกอบกับลำน้ำมูล และลำน้ำชี มีปริมาณมาก ส่งผลทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะชุมชนสะพานขาว ชุมชนหัวหมู เขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ อาจได้รับผลกระทบในช่วงระยะนี้ เนื่องจากปัจจุบันน้ำได้ไหลเอ่อล้นตลิ่งแล้วในบางจุด ส่วนที่เตือนระดับน้ำในห้วยทับทัน ที่สะพานห้วยทับทัน อ.ห้วยทับทัน ที่สถานีวัดน้ำ M42 ได้ไหมล้นตลิ่งที่ 0.91 ม. ส่งผลทำให้น้ำไหลเข้าท่วมภายในวัดดอนแก้วห้วยวะ บ้านโนนสำ ต.กล้วยกว้าง อ.ห้วยทับทัน จนกลายเป็นทะเล และยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอีกในช่วงนี้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังและติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด.
พิสิษฐ์ สิริวิริยะธนา ศรีสะเกษ // รายงาน

Related posts
It may be that the access link is wrong or the file does not exist.