กำนันตำบลท่ากระเสริมออกตรวจริมตลิ่งลำน้ำพองในพื้นที่ พบคันคูถูกน้ำเซาะพังหลายที่ เกรงน้ำล้นตลิ่งหากทางเขื่อนอุบลรัตน์ปล่อยน้ำเกิน 35 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
นายชัยยา วงษ์วอน กำนันตำบลท่ากระเสริม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เผยว่า จากการที่เขื่อนอุบลรัตน์ปล่อยน้ำวันละกว่า 20 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันในช่วงนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อชาวนาที่อาศัยอยู่ริมลำน้ำพองมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตตำบลท่ากระเสริม เนื่องจากได้มีการเสริมคันดินริมฝั่งลำน้ำพองมาให้สูงขึ้นหลังจากที่ประสบปัญหาน้ำท่วมเมื่อปี 2560 แต่ก็ยังไม่ประมาทเพราะว่าคันดินหลายจุดถูกกระแสน้ำกัดเซาะได้รับความเสียหาย จึงได้มีการปราศแจ้งเตือนลูกบ้านให้ขนของไว้ในที่สูง
แต่ถ้าหากเขื่อนอุบลรัตน์ปล่อยน้ำในปริมาณเกิน 35 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน พื้นที่การเกษตรกว่าหนึ่งหมื่นไร่ จะได้รับผลกระทบแน่นอน ซึ่งตอนนี้ข้าวกำลังออกรวง ซึ่งทางผู้นำแต่ละหมู่บ้านได้ออกตรวจตราดูระนับทุกวัน เนื่องจากน้ำในลำน้ำพองมีระดับเพิ่มขึ้นตลอด จากสถานการณ์น้ำฝนตอนนี้จะลดลงก็ตาม แต่ทางเขื่อนมีน้ำเติมอยู่คลอด จึงมีความจำเป็นจะต้องปล่อยน้ำลงมา ซึ่งจะส่งผลกระทบท้ายเขื่อนในเขตอำเภอเมืองขอนแก่น
ปริมาณน้ำที่เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เมื่อเวลา 08.00น. วันนี้ มีปริมาณน้ำในอ่าง 2,568 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 105 ของความจุอ่าง ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง 95 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีการระบายน้ำ 21 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้มติที่ประชุมการหารือร่วมกัน 3 ฝ่าย ประกอบด้วย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค 3 , โรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (เขื่อนอุบลรัตน์) และ สำนักงานชลประทานที่ 6 ในวันที่ 20 ตุลาคม 2564 หารือร่วมกัน 3 ฝ่าย ที่ประชุมมีมติให้ระบายน้ำแบบขั้นบันได ดังนี้ วันพุธที่ 20 ตุลาคม 2564 ระบายวันละ 21 ล้าน ลบ.ม วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม 2564 ปรับเพิ่มระบายเป็นวันละ 24 ล้าน ลบ.ม. วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ระบายวันละ 25 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ ในการปรับลด-เพิ่มการระบายน้ำ จะพิจารณาให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนด้วย
#อีสานเดลี่ออนไลน์