พร้อมตรวจเยี่ยมด่านศุลการกรเชียงคาน หารือภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ ย้ำทีมเซลส์แมนเตรีบมแผนรองรับการค้าหลังเปิดประเทศ และมาตรการกำกับขนส่งสินค้าป้องกันโควิด -19
วันที่16 ต.ค.64 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมด่านศุลการกรเชียงคาน จังหวัดเลย นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมหารือกับผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ โดยมีนายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นางเบญจวรรณ ตันญู พาณิชย์จังหวัดเลย ว่าที่ ร.ต.นครชัย แสงมณี นายอำเภอเชียงคาน นายด่านศุลการกรเชียงคาน หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ร่วมหารือเพื่อติดตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะเรื่องการค้าชายแดน ตามนโยบายของรัฐบาลที่มีการเปิดประเทศและเร่งรัดการเปิดด่านพรมแดนของไทยที่ถูกปิดไปเนื่องจากสถานการ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้สามารถเปิดดำเนินการขนส่งสินค้าได้โดยเร็ว รวมถึงแผนการดำเนินงานของทีมเชลส์แมนจังหวัดรองรับการค้าหลังเปิดประเทศ โดยเฉพาะอำเภอเชียงคานถือว่ามีศักยภาพทางเศรษฐกิจการค้าที่สามารถต่อยอดจากการท่องเที่ยว และมีพรมแดนติด ปป.ลาว จึงเป็นโอกาสที่ไทยจะขยายการค้าชายแดนเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ มีประเด็นการประชุมหารือที่สำคัญ ได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่
เรื่องแรก การเปิดด่านเชียงคานที่ปัจจุบันปิดทำการตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค covid-19 ของไทยและ สปป.ลาว ตั้งแต่ปี 2563 และ ภาคเอกชนเสนอให้เร่งรัดเปิดด่านเพื่อขนส่งสินค้าโดยเร็ว ซึ่งความคืบหน้าจังหวัดเลยพร้อมเปิดด่านเชียงคานแล้ว และได้มีมาตรการกำกับดูแล การขนส่งสินค้า เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 รวมทั้งได้มีหนังสือแจ้งฝ่าย สปป.ลาว ขอให้พิจารณาความพร้อมในการเปิดด่านของไทยแล้ว
เรื่องที่ 2 หากมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จะต้องเตรียมความพร้อม รองรับการเปิดการค้าในยุคนิวนอร์มอล โดยทีมเชลส์แมนจังหวัดที่นำโดยพาณิชย์จังหวัด ต้องทำงานร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั่วโลก เพื่อเชื่อมโยงการค้าและประชาสัมพันธ์สินค้าศักยภาพของจังหวัดเลยสู่ตลาดต่างประเทศ เช่น ผลิตภัณฑ์กาแฟ ที่สามารถผลักดันให้วางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าใน สปป.ลาวได้แล้ว เสื้อผ้าฝ้ายทอมือ ที่นำมาทำเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ซึ่งปัจจุบันส่งออกไปญี่ปุ่นและออสเตรเลียแล้ว ปริมาณส่งออกยังไม่มากนัก กระทรวงพาณิชย์จึงต้องเร่งส่งเสริมการส่งออกสินค้าดังกล่าวต่อไป
ส่วนการผลักดัน โครงการเชียงคาน sandbox รวมทั้งอบรมพัฒนาผู้ให้บริการ ในธุรกิจท่องเที่ยวสาขาต่างๆ โดยมีเป้าหมายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาเที่ยวเชียงคานมากขึ้น ซึ่งได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการ เตรียมความพร้อมเรื่องการรักษามาตรฐานด้านสุขอนามัยและการนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการประกอบธุรกิจการค้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาด
ดำรงค์ รักษ์จรรยาวงศ์/ จ.เลย