ตำรวจจังหวัดขอนแก่น เตือนสถานประกอบการที่ลักลอบจำหน่ายสุรา ให้กับลูกค้า จะต้องโดนจับปรับและส่งฟ้องศาล

ตำรวจจังหวัดขอนแก่น เตือนสถานประกอบการที่ลักลอบจำหน่ายสุรา ให้กับลูกค้า จะต้องโดนจับปรับและส่งฟ้องศาล โดยในเดือนนี้สามารถจับกุมได้แล้ว ราย

              วันที่ 12 ต.ค. 64 พ.ต.อ.ธนาวัตร ดีบุญมี ณ ชุมแพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ตามที่จังหวัดขอนแก่นได้ออกประกาศจังหวัดขอนแก่นฉบับที่ 53 ออกมาเมื่อวันที่ 30 ก.ย.64 ที่ผ่านมา เพื่อยกระดับเป็นจังหวัดพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพื่อเป็นมาตรการป้องกันของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว

              ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4,พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ออกกวดขัน/จับกุม สถานประกอบการหรือร้านอาหาร ที่มีการฝ่าฝืน จำหน่าย หรือ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านค้า และให้ปิดภายในเวลา  23.00 น.

              ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับเรื่องร้องเรียนจากภาคประชาชนว่า มีร้านอาหารในเขตพื้นที่ลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ทำให้เกิดการมั่วสุม ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด 19 และเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง/ประกาศจังหวัดขอนแก่นฉบับดังกล่าว จึงได้สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ฝ่ายปกครองจังหวัดขอนแก่น,สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น,สรรพสามิตจังหวัดขอนแก่น,ปปส.ภาค 4 และสำนักงานควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น ร่วมกันออกตรวจเพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง จนสามารถเข้าจับกุมเจ้าของหรือผู้ดูแลร้านอาหารที่กระทำผิดกฎหมาย ในห้วงตั้งแต่วันที่ 1-11 ตค.2564 จับกุมผู้ดูแลเจ้าของร้านจำนวน 5 ราย ในเขตอำเภอมืองขอนแก่น

            จากการเข้าตรวจสอบพบว่า เจ้าของหรือผู้ดูแลร้านมีการลักลอบจำหน่ายสุราให้ลูกค้าเพื่อนั่งดื่มในร้านจริง ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดขอนแก่น ฉบับที่ 53 ซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พรก.ฉุกเฉินฯ (ฉบับที่ 20) ลงวันที่ 16 เม.ย.2564 อันมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในถสานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2556 ต้องระวางโทษปรับเป็นเงินไม่เกิน 20,000 บาท ตามมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่งฟ้องดำเนินคดีที่ศาลทุกราย และทางตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวจะได้ออกตรวจร้านค้าที่ยังฝ่าฝืน เพื่อจะได้จับกุมดำเนินคดีต่อไป.

#อีสานเดลี่ออนไลน์

 

อาชญากรรม

Related posts

404 Not Found
404
Sorry, the page you visited does not exist.
It may be that the access link is wrong or the file does not exist.