เมื่อวันที่ 9 ต.ค. นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การระบายน้ำลำน้ำมูล บริเวณเขื่อนราษีไศล อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ร่วมกับ นายชัยยงค์ เมธาสุรวิทย์ นายอำเภอราษีไศล นายบุญประสงศ์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงาน ปภ. จ.ศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่าง (เขื่อนราษีไศล) และสถานีวัดระดับน้ำ M5 สะพานราษีไศล พบว่าการระบายน้ำยังคงไหลได้ต่อเนื่อง จากการประเมินคาดว่า มวลน้ำมูลจาก จ.นครราชสีมา ขณะนี้ได้ไหลมาถึงพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และจะมาถึงพื้นที่เขื่อนราษีไศล ซึ่งเป็นจุดรับน้ำแห่งแรกของ จ.ศรีสะเกษ ในอีกประมาณ 4-5 วันนี้ โดยปัจจุบันเขื่อนราษีไศล ได้ยกบานระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้เพื่อเตรียมการรับมือพายุโซนร้อน “ไลออนร็อก” ลูกใหม่ ที่กำลังเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 10-11 ต.ค. นี้ พร้อมได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกาะติดปริมาณฝน ปรับแผนเผชิญเหตุอุกทกภัยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ พร้อมเตรียมช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งตอนนี้เราห่วงใยและเน้นไปที่พื้นที่อำเภอหรือหมู่บ้าน และพื้นที่ทางการเกษตรตามแนวแม่น้ำมูล เส้นทางน้ำไหลผ่าน โดยเฉพาะที่หน้าเขื่อนราษีไศล รวมถึงพื้นที่ อ.ศิลาลาด อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ
จากนี้ไปจะมีน้ำเข้าในพื้นที่ระหว่างเขื่อนราษีไศล กับเขื่อนหัวนา และจะใช้ระยะเวลาประมาณ 5 วัน ต่อจากกลางเดือน ต.ค. นี้ ไปอีก อาจจะทำให้น้ำในพื้นที่อำเภอราษีไศล อ.อุทุมพรพิสัย อ.ยางชุมน้อย อ.เมืองศรีสะเกษ และอ.กันทรารมย์ อาจจะได้รับผลกระทบ และส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ทางการเกษตรเป็นหลัก ซึ่งในขณะนี้ทาง จ.ศรีสะเกษ ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในแนวแม่น้ำมูล และเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ไร่นาที่ถูกน้ำท่วม เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่เกษตรเพื่อลดความเสียหายของพี่น้องเกษตรกรโดยด่วนด้วย.
พิสิษฐ์ สิริวิริยะธนา ศรีสะเกษ // รายงาน
