ชัยภูมิ(ชมคลิป)ยังจมบาดาลหนัก กว่า 2 แสนไร่วิกฤต ทางสัญจรประตูสู่อีสานสาย 201 ผ่านชัยภูมิยังไม่ได้

ผบก.ตร.น้ำส่งกำลังจนท.ล่องเรือแจกถุงยังชีพ-ออกหาข่าวปราบแก๊งแมวน้ำหวั่นมาซ้ำเติมผู้ประสพภัยน้ำท่วม
ชัยภูมิ – ถนนประตูสู่ภาคอีสาน สาย 201 สีคิ้ว-ชัยภูมิ จากกรุงเทพฯ-มาจ.ชัยภูมิและถนนสายชัยภูมิ-นครสวรรค์ จากชัยภูมิไปจ.นครสวรรค์กรุงเทพฯ มีน้ำท่วมสูงไหลเชี่ยวแรงสะพานถูกน้ำซัดตัดขาดจากโลกภายนอก ด้านผู้การตร.น้ำส่งกำลังจนท.ล่องเรือแจกถุงยังชีพ-ออกหาข่าวปราบแก๊งแมวน้ำหวั่นมาซ้ำเติมผู้ประสพภัยน้ำท่วม
( เมื่อวันที่ 30 ก.ย.64 ) ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ยังวิกฤตต่อเนื่อง แม้ว่าฤทธิ์พายุเตี้ยนหมู่จะอ่อนแรงลงและฝนพอจะเริ่มหยุดตกในพื้นที่บ้างแล้วก็ตาม
โดยเฉพาะในขณะนี้เกิดน้ำชีหลากหนุนสูงเข้ามาท่วมในอีกหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในพื้นที่ตัวอำเภอเมืองชัยภูมิ และโซนเศรษฐกิจเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิถูกน้ำท่วมทั้งหมด เส้นทางสัญจรตามถนนสายหลักต่างๆมีระดับน้ำท่วมสูงรถทุกชนิดไม่สามารถเข้าถึงตัวเมืองชัยภูมิได้บางส่วนเกือบทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะเส้นทางสายทางหลวงหมายเลข 201 สีคิ้ว-ชัยภูมิและเส้นทางหลวงสายชัยภูมิ-นครสวรรค์ ที่จะเชื่อมเป็นเส้นทางให้ประชาชนเดินทางมาจากพื้นที่กรุงเทพฯ กว้าง เป็นระยะทางยาวกว่า 2 กม. และถนนสาย จ.ชัยภูมิไป จ.นครสวรรค์ ที่เป็นเส้นทางสายหลักประตูสู่อีสานผ่านตัวเมืองชัยภูมิ ยังมีน้ำท่วมสูงและไหลเชี่ยวแรงและที่สะพานข้ามแม่น้ำชี จุดบ้านโนนเปลือย อำเภอบ้านเขว้าถูกน้ำพัดถนนเป็นรูโพงกว้าง เป็นระยะทางยาวกว่า2 กม. ทำให้ไม่สามารถใช้เส้นทางนี้ผ่านเข้าสู่ตัวเมืองชัยภูมิเหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกไม่สามารถขนส่งพืชผัก เนื้อสัตว์ เครื่องอุปโภคบริโภคปัจจัยในการดำรงชีพ ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหายากและมีราคาแพงขึ้นตามมาอีกด้วย
ล่าสุดที่บนถนนสาย201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว บริเวณหน้าปากทางเข้าหมู่บ้านห้วยหลัว ต.หนองนาแซง อ.เมืองชัยภูมิ ที่ยังคงมีน้ำท่วมขังกว่า 1 เมตร มีชาวบ้านหลายรายติดอยู่ภายในบ้านพัก
พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผู้บังคับการตํารวจน้ำ จัดกำลังชุดปฏิบัติการรุดเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เข้าปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ และ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.จักรพันธุ์ รัตนเทวมาตย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินเรือ (สบ5) กองบังคับการตำรวจน้ำ เป็นผู้อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ส่วนหน้ามาจากลังพลจาก ตำรวจน้ำทั่วประเทศ อาทิ สมุทรปราการ อยุธยา ชลบุรี สมุทรสาคร มุกดาหาร นครพนมโดย แบ่งชุดปฏิบัติการฯ ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 5 ชุด พ.ต.ท.สิงหา ควรบำรุง รอง ผกก. 10 บก.รน. แบ่งชุดปฏิบัติการฯ ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 5 ชุด ให้พ.ต.ท.สิงหา ควรบำรุง รอง ผกก. 10 บก.รน.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจน้ำทั่วประเทศ อาทิ สมุทรปราการ อยุธยา ชลบุรี สมุทรสาคร มุกดาหาร นครพนม นำเรือยางเครื่องยนต์ติดท้าย 2 ลำ ,เรือท้องแบนเครื่องยนต์ติดท้าย 4 ลำ รถกระบะ 9 คัน, รถหกล้อ 1 คัน.รถกระยกสูง 1 คัน รุดเข้าช่วยเหลือเกษตรกรประชาชน บนถนนสายชัยภูมิ-สีคิ้ว ตำรวจน้ำ (สบ5) กองบังคับการตำรวจน้ำ มีภารกิจต้องนำถุงยังชีพ 300 ชุดไปแจกผู้ประสบภัยในพื้นที่ ต.หนองนาแซง จำนวน 10 หมู่บ้าน จุดหลักๆ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ด้วยการล่องเรือ 4 ลำไปตามถนนสาย 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว แล้ว ลัดเลาะเข้าไปยังหมู่บ้านต่างๆ เมื่อชาวบ้านได้ยินเสียงประกาศ ต่างชะโงกหน้าออกมาทางหน้าต่างชั้นสองของบ้าน บ้างก็ยืนสังเกตการณ์อยู่บนบ้านพักชั้น2 ขณะที่ผู้ประสบภัยบางส่วนที่ติดอยู่บนบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะนำถุงยังชีพพายเรือเข้าไปเทียบบันไดบ้านพร้อมมอบถุงยังชีพของสภากาชาดไทยพร้อมข้าวกล้องน้ำดื่มยารักษาโรคให้
นอกจากจะมาทำหน้าที่คอยแจกถุงยังชีพแล้ว ตำรวจน้ำและเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ ยังคอยหาข่าว “แก๊งแมวน้ำ” ที่จะมาโจรกรรมพืชผลทางการเกษตรและข้าวของมีค่าของเกษตรกรประชาชนผู้ประสพภัย นอกนั้นยังได้สอบถามสารทุกข์สุกดิบของผู้ประสบภัยตลอดเส้นทาง เนื่องจากตำรวจน้ำกับตำรวจท้องที่ต้องออกตรวจร่วมกันอีกด้วย
ด้านการพ.ต.อ.จักรพันธุ์ รัตนเทวมาตย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินเรือ (สบ5) กองบังคับการตำรวจน้ำ ได้กล่าวแนะนำกับชาวบ้านว่า หากพบเจอบุคคลต้องสงสัยก็ขอให้จดจำตำหนิรูปประพันของผู้ต้องสงสัยไว้ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ เข้ามาตรวจจับปราบปราม “แก๊งแมวน้ำ” ที่ออกอาละวาดหนักซ้ำเติมผู้ประสบภัยด้วย รวมทั้งวางแผนจัดการคนร้ายที่มาขโมยของ รวมทั้งวิเคราะห์เส้นทางหนี ทางตำรวจน้ำเองก็จัดชุดตรวจการณ์ความปลอดภัยพิเศษยามวิกาลด้วย


ซึ่งล่าสุดทางด้านแขวงทางหลวงชนบทชัยภูมิ โดย นายวิชัย พลอยกลม ผอ.ขทช.ชัยภูมิ แจงสรุปข้อมูลถนนสายทางในโครงข่ายทางหลวงชนบทในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ที่ประสบอุทกภัยเนื่องจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ประจำวันวันที่ 28 กันยายน 2564 มีจำนวนสายทาง จำนวนทั้งสิ้นแล้ว 55 สายทาง ประสบอุทกภัยแล้ว จำนวน 20 สายทาง สัญจรได้ จำนวน 13 สายทาง สัญจรไม่ได้ จำนวน 7 สายทาง เพราะเกิดน้ำท่วมขัง และ โครงสร้างทางชำรุดจำนวน 5 สายทาง สะพานชำรุดจำนวน 2 สายทาง
ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ประชาชนต้องได้รับความเดือดร้อนจำนวนมากที่ไม่สามารถผ่านเข้าออกจังหวัดชัยภูมิได้ในขณะนี้ โดยมีแนวทาง 1.ได้บูรณาการกับหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ช่วยตรวจตรา เฝ้าระวังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพื่อช่วยแหลือ อำนวยความสะดวกประชาชนในพื้นที่ไว้ประจำแต่ละจุดที่เสี่ยงอันตรายเกิดน้ำหลาก 2. ได้ติดตั้งป้ายแนะนำทางเลี่ยง ป้ายเตือน ก่อนถึงตำแหน่งประสบเหตุ และ ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยที่ตำแหน่งประสบเหตุทั้งสองฝั่งเพื่ออำนวยความปลอดภัยแก่ประชาชนและผู้สัญจรบนเส้นทาง
3.กรณีสะพานชำรุด คอสะพานขาด เพื่อไม่ให้เส้นทางถูกตัดขาด ได้ขอรับการสนับสนุนจากสำนักงานทางหลวงชนบทที่ ๕ (นครราชสีมา) เพื่อพิจารณาติดตั้งสะพานเหล็กชั่วคราว (Baily Bridge) เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน 4. จัดชุดเคลื่อนที่เร็วออกตรวจตรา เฝ้าระวัง ตลอด 24 ชั่วโมง และรายงานให้ทราบเป็นระยะจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายน้ำลด 5.จัดชุดอำนวยความสะดวกทั้งในส่วนของแขวงทางหลวงชนบท และ หมวดบำรุงทางหลวงชนบทออก บริการ ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 6.ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์และบูรณาการกับหน่วยงานจังหวัดที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน และ 7.เมื่อสถานการณ์ลดความรุนแรงลง จะรีบสำรวจรายละเอียดความเสียหาย เพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินการซ่อมฟื้นฟูสภาพหรือแก้ไขปัญหาระยาวตามลักษณะความเสียหายได้โดยเร็วต่อไป

วิรัตน์ ดวงแก้ว จ.ชัยภูมิ รายงาน

คลิป, อุทกภัย

Related posts

404 Not Found
404
Sorry, the page you visited does not exist.
It may be that the access link is wrong or the file does not exist.