เมื่อวันที่ 26 ก.ย. นายณัทเศรษฐ์ ถิรวัฒน์ธนกร ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหัวนา (เขื่อนหัวนา) อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตามที่ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหัวนา ได้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำด้านเหนือเขื่อน ในแม่น้ำมูลที่ไหลมาจากเขื่อนราษีไศล ลำห้วยสำราญ ลำห้วยขะยุง และสถานการณ์น้ำด้านท้ายเขื่อนที่ไหลมาจากแม่น้ำชี ลำเซบายล่าง ทำให้บริเวณพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่ไหลลงมา เกิดปัญหาน้ำท่วมขังที่อยู่อาศัยของพี่น้องประชาชนชาว จ.อุบลราชธานี ที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมูล ซึ่งหากเขื่อนหัวนา ทำการแขวนบานระบาย เกรงว่าปริมาณน้ำที่ไหลลงไป จะส่งผลทำให้น้ำท่วมเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหัวนา จึงได้พิจารณาตามประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ฉบับที่ 15/2564 ลงวันที่ 25 ก.ย. 64 ให้ชะลอน้ำที่เขื่อนหัวนา ประกอบทั้งได้ตรวจสอบพื้นที่รับน้ำเขื่อนหัวนา แล้วเห็นว่า เขื่อนหัวนา ยังสามารถรับน้ำได้อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่ส่งผลกระทบที่จะทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง จนกว่าระดับน้ำจะเกิน +114.00 ม.รทก. แต่อย่างไรก็ดี ระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นนี้ อาจเกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ที่อยู่ด้านเหนือเขื่อนบ้าง อันได้แก่ กลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชัง แพประกอบการร้านค้าอาหาร แพผลิตน้ำประปาชุมชนและสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า
จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ระมัดระวัง และเก็บสิ่งของมีค่า รวมถึงทรัพย์สินให้ปลอดภัย พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์น้ำที่ทางราชการประกาศเตือนอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหัวนา ยังเตรียมแผนในการเผชิญสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งท่วมที่อยู่อาศัยและสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมบุคลากร เครื่องสูบน้ำ เรือยนต์ รถบรรทุกและอื่นๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนได้ในทันที โดยจะบริหารจัดการน้ำในการดูแลพื้นที่ทั้งด้านเหนือน้ำและด้านท้ายน้ำ ให้เกิดผลกระทบอย่างน้อยที่สุดและให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วต่อไป.
พิสิษฐ์ สิริวิริยะธนา ศรีสะเกษ // รายงาน