เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.นพดล เปลี่ยนรูป รอง ผกก สส. สภ.เมืองอุบลราชธานี,พ.ต.ท.วิมล บุญมานันท์ รอง ผกก.(ป)สภ.เมืองอุบล ฯแถลงข่าวผลการจับกุมคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์,วิ่งราวทรัพย์ และลักทรัพย์ จำนวน 6 ครั้ง ภายใน 2 เดือน รวมมูลค่าความเสียหาย 226,000 บาท
ทั้งนี้ พ.ต.ท.นพดล เปลี่ยนรูป รอง ผกก สส. สภ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมด้วย พ.ต.ต.อดิศักดิ์ ไชยสัตย์ สว.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แกะรอยจากกล้องวงจรปิดที่คนร้ายได้ตระเวนก่อเหตุชิงทรัพย์,วิ่งราวทรัพย์ และลักทรัพย์ และติดตามจับกุม นายกิตติศักดิ์ หรือกุ้ง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ซอยบูรพาใน 4 ถนนบูรพาใน ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี คนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์,วิ่งราวทรัพย์ และลักทรัพย์ จำนวน 6 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหาย 226,000 บาท เริ่มจากวันที่ 26 ก.ค. ก่อเหตุลักทรัพย์ ร้านขายของชำ ซอยชยางกูร 34 ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลฯ ทรัพย์สินที่ได้ไป เงินสด 4,000 บาท,สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท และนำบัตร ATM ของผู้เสียหายไปกดเงินสดออกมา 7,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหาย 40,000 บาท ,วันที่ 10 ส.ค. ก่อเหตุลักทรัพย์ที่หน้าบ้านเลขที่ 75 หมู่ 1 ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลฯ ทรัพย์สินที่ได้ไป คือ เงินสด จำนวน 8,000 บาท,แหวนเพชร 2 วง,บัตร ATM ธนาคารกรุงไทย และบัตร ATM ธนาคารกรุงเทพ ของนางอุดร อรัมสัจจากูล รวมมูลค่าความเสียหาย 80,000 บาท ,วันที่ 24 ส.ค. ก่อเหตุชิงทรัพย์ ที่บริเวณถนนบูรพาใน ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลฯ ทรัพย์สินที่ได้ไป โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เงินสด 1,500 บาท และบัตร ATM ธกส.สาขาอุบลราชธานี รวมมูลค่าความเสียหาย 3,000 บาท ,วันที่ 2 ก.ย.ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ที่บ้านเลขที่ 158 ถ.อุบล – ตระการ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลฯ ทรัพย์สินที่ได้ไป คือ สร้อยคอทองคำ พร้อมจี้ น้ำหนัก 2 บาท รวมมูลค่าความเสียหาย 70,000 บาท,วันที่ 7 ก.ย.ก่อเหตุลักทรัพย์ ที่ร้านขายของชำเติมเต็ม เลขที่ 102/ 1 ถ.สุขาสงเคราะห์ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลฯ ทรัพย์สินที่ได้ไป เงินสดจำนวน 23,000 บาท,ต่างหูทองประดับเพชร จำนวน 1 คู่ ราคาประมาณ 1,500 บาท และธนบัตรที่เก็บสะสม จำนวน 1,500 บาท รวมมูลค่าความเสียหาย 31,000 บาท และ วันที่ 13 กันยายน ก่อเหตุลักทรัพย์ ที่ร้านเจ้หมวย ต.กุดลาด อ.เมืองอุบลฯ ทรัพย์สินที่ได้ไป กระเป๋าสตางค์ 1 ใบ รวมมูลค่าความเสียหาย 2,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 6 ครั้งประมาณ 226,000 บาท
พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุจะขับรถจักรยานยนต์ตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านพักและร้านขายของชำ โดยส่วนใหญ่เลือกเหยื่อที่เป็นผู้สูงอายุ จากนั้นรอจังหวะที่ผู้เสียหายเผลอ แล้วเดินเข้าไปหยิบเอาทรัพย์สินหลบหนี นอกจากนี้ก็ได้ก่อเหตุกับเหยื่อที่วางกระเป๋าทรัพย์สินไว้ที่ตะกร้าหน้ารถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ตามหน้าบ้าน โดยใช้วิธีการขับถจักรยานยนต์เข้าไปประกบแล้วหยิบกระเป๋าทรัพย์สินหลบหนี โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตกงานรายได้ไม่พอกับรายจ่ายภายในครอบครัว,ติดยาเสพติด แจ้งข้อหาชิงทรัพย์,วิ่งราวทรัพย์ และลักทรัพย์