ขอนแก่น(ชมคลิป)คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ อนุมัติให้ อบจ. จัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นา 3 หมื่นโดส เพื่อฉีดให้กับประชาชน

คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น อนุมัติให้ อบจ.ขอนแก่น จัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นา 3 หมื่นโดส เพื่อฉีดให้กับประชาชน

           2 ส.ค. 64 คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น ได้มีการเรียกประชุม หลังจากที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ได้ปรับให้จังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดในกลุ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือจังหวัดพื้นที่สีแดง  หลังยังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่สูงขึ้นต่อเนื่อง

         นายสมศักดิ์ จังระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น ได้กำหนดจำนวนบุคลที่จะเข้าร่วมกิจกรรม รวมทั้งการตั้ง รพ.สนาม ที่เรือนจำ อ.พล ภายใต้การกำกับและควบคุมของกรมราชทัณฑ์และ รพ.พล การกำหนดจุดตรวจการเข้าและออกเมือง จากเดิมกำหนดจุดตรวจที่ด่านนาโน อ.บ้านไผ่ ให้เป็น ด่านตรวจ อ.พล การผ่อนผันการเดินทางของ สส.และ สว. ที่ต้องเดินทางไปปฏิบัติงานและประชุมในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม การขยายระยะเวลาการสอบของหน่วยงานของรัฐทุกหน่วยในการจัดการสอบกลุ่มข้าราชการพิเศษ จากเดิม กำหนดการสอบ ส.ค. ไปเป็นเดือน ก.ย.

          “วันนี้ที่ประชุมได้มีมติให้ อบจ.ขอนแก่น จัดหาวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นา ตามระเบียบของสภากาชาดไทย เบื้องต้น 30,000 โดส สำหรับการฉีดให้กับชาวขอนแก่นกลุ่มเป้าหมาย 15,000 คน ซึ่งจะใช้งบประมาณ 33 ล้านบาท โดยในการพิจารณารายชื่อของผู้ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนนั้นมอบหมายให้ สสจ.ขอนแก่น ตรวจสอบรายชื่อบุคคล ที่ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมและขอนแก่นพร้อมเป็นลำดับแรก ซึ่งเมื่อมีติเป็นเอกฉันท์ก็จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อกับ อบจ.ดำเนินการตามขั้นตอนและระเบียบที่สภากาชาดไทยกำหนดไว้ต่อไป”

      ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ที่ประชุมยังมีมติในการขยายระยะเวลาการปิดการเรียนการสอนของโรงเรียนเอกชน ไปจนกว่าสถานการฯจะคลี่คลาย รวมทั้งการมีคำสั่งปิดตลาดศรีเมืองทองออกไปอีก 7 วัน จากเดิมครบกำหนดสั่งปิดในวันที่ 5 ส.ค. เนื่องจากเป็นคลัสเตอร์ที่พบการแพร่เชื้อในกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้า และขณะนี้การสอบสวนโรคยังคงพบว่าผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อของตลาดแห่งนี้ยังคงเชื่อมโยงไปในกลุ่มตลาดของอีกหลายจังหวัด ทำให้ที่ประชุมจึงมีคำสั่งปิดตลาดต่อไปอีกและให้มีการจัดระบบด้านสุขอนามัย ตามมาตรฐานด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด หากฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทันที อย่างไรก็ตามขณะนี้การขาดเครื่องพ่นออกชิเจนแบบไฮโฟ ในการใช้ในการรักษาผู้ป่วยในภาพรวมยังคงขาดแคลนอยู่ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าต้องใช้เครื่องดังกล่าวในการรักษาประมาณ 110 เครื่องดังนั้น นอกจากการประสานงานร่วม อบจ.ขอนแก่น,เทศบาลนครขอนแก่นแล้ว ยังคงขอรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาในการขอรับการสนับสนุนเครื่องพ่นออกซิเจนดังกล่าวอย่างเร่งด่วนในระยะนี้.