ที่วัดบ้านอ้นหมู่ 3 ตำบลดงลาน อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธาน เปิดโรงพยาบาลสนามภายในวัดบ้านอ้น เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขนาด 40 เตียง ที่รักษาใกล้หายตามระยะเวลาที่กำหนด เข้ามาพักฟื้นก่อนปล่อยตัวกลับบ้าน โดยมีนายเอกภาพ พลซื่อ นายก อบจ.ร้อยเอ็ด นพ.ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์ สสจ.ร้อยเอ็ด นายสนอง ดลประสิทธิ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด พ.ต.อ.ภูมิวิช เวชกามา รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด นายเริงวิทย์ ถนอมแสง นอภ.เมืองร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องที่-ท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ รพ.ร้อยเอ็ด สาธารณสุข อสม.และประชาชนในพื้นที่ร่วมพิธี
น.ส.อุไรพรณ์ ทิดจันทึก หัวหน้างานเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชนและศูนย์สุขภาพชุมชนเขตเมือง โรงพยาบาลร้อยเอ็ดกล่าวว่า พระมหาอุดร ธมฺมปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดบ้านอ้น เจ้าคณะอำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด
ได้เล็งเห็นความสำคัญและการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่ผ่านมาท่านได้พาชมรมคนมีบุญ และศิษยานุศิษย์ จัดทำอาหาร พร้อมนำน้ำดื่มไปมอบให้กับผู้ป่วย และแสดงธรรมสร้างสติให้แก่ผู้ป่วยที่ทำการรักษาในโรงพยาบาลสนามจังหวัดอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อเร็วๆนี้ท่านได้เป็นผู้ประสานงานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการนำผู้ป่วยจากจังหวัดพื้นที่สีแดง ที่ไม่มีเตียงรักษา กลับมารักษาตัวที่จังหวัดร้อยเอ็ดแล้วหลายราย ปัจจุบันแม้ทางจังหวัดจะมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นแล้ว 3แห่ง ได้แก่โรงพยาบาลสนามที่หอประชุมจังหวัด โรงพยาบาลสนามที่มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และโรงพยาบาลสนามค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช แล้วก็ตาม แต่สถานการณ์ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อโควิด 19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสถานที่รองรัยอาจไม่เพียงพอ วัดบ้านอ้นจึงเสนอตัวขอเป็นวัดนำร่อง ในการจัดตั้งโรงบาลสนามขนาดกลางขึ้น
พระมหาอุดร ธมฺมปญฺโญ บอกว่า การที่ทางวัดบ้านอ้นได้ให้สถานที่ของวัด จัดตั้งเแ็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิดนั้น สืบเนื่องจากจำนวนโรงพยาบาลสนามที่ทางจังหวัดตั้งขึ้นนั้น ไม่น่าจะเพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยชาวร้อยเอ็ดที่เดินทางจากพื้นที่สีแดงกลับมายังภูมิลำเนาอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ และเห็นว่าทางวัดมีเสนาสถานคือ อาคารศาลาเอนกประสงค์ที่มีอยู่แล้ว ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์มากเท่าที่ควร เราเห็นว่าในคราวที่มีภัยพิบัติโรคระบาดเกิดขึ้นครั้งนี้คิดว่าน่าจะใช้ศาลาเอนกประสงค์ที่ว่างนี้ให้เกิดประโยชน์อย่างน้อยก็เป็นการแบ่งเบาภาระช่วยกันต่างคนต่างช่วยเพื่อเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น
ในการทำงานวันแรกที่เราบอกชาวบ้านว่า อยากให้ศาลาวัดเป็นโรงพยาบาลสนามรักษาปู้ป่วยโควิด 19 ก็มีเสียงคัดค้านบ้าง เนื่องจากชาวบ้านบางส่วนไม่เห็นด้วย กลัวโรคจะระบาดเข้าชุมชน เนื่องจากขาดความเข้าใจ เราก็ทำความเข้าใจว่ากระบวนการที่จะนำผู้ป่วยมารักษาตรงนี้ เป็นผู้ป่วยประเภทไหนต้องอาศัยจากทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โรงพยาบาลรพ.สต.ฝ่ายปกครองซึ่งนำโดยนายเริงวิทย์ ถนอมแสง นายอำเภอเมืองร้อยเอ็ด นายอุทัยเทพ พรรคพล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดงลาน นายอมร ยุระไพ นายชัย โคตะนิตย์ ส.อบต. นายประเทือง มิตรอุดม ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย ตลอดจน อสม.ร่วมประสานพูดคุย แต่เหนือสิ่งอื่นใดชาวบ้านมีความมั่นใจในตัวอาตมาที่เป็นผู้นำ พาทำอยู่ที่ตรงนี้ ถ้าคิดง่ายๆก็คือพาผู้ป่วยมาอยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้ใกล้ชิดกับคนทั่วไป คนที่ใกล้ชิดที่สุดคือแพทย์ พยาบาล เขายังมีจิตอาสาที่จะทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยอยู่เลย
ฉะนั้นเราเพียงให้แค่สถานที่ เราก็ใช้ชีวิตกันปกติ การจัดการโรงพยาบาลสนามก็มีการจัดเป็นสัดเป็นส่วนทั้ง ที่พัก ที่รับประทานอาหาร ห้องน้ำ ที่อาบน้ำ แยกจากญาติโยม พระเณรอย่างชัดเจน เรื่องดังกล่าวอาตมาคิดว่าทุกวัดที่มีพื้นที่สามารถทำได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าต้องไปทำความเข้าใจกับชุมชนและบริหารจัดการพื้นที่ให้เกิดความชัดเจน ก็สามารถจะใช้เป็นโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยได้ ซึ่งชุมชนในแถบวัดของเรามีความเข้าใจเป็นอย่างดี เราช่วยกันคนละไม้ละมือไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถทำให้โรงพยาบาลสนามแห่งนี้เสร็จสิ้นพร้อมรองรับผู้ป่วยได้ทั้งสิ้น 40 เตียง แต่ถ้าหากจำเป็นอาจขยายเป็น 60 เตียงได้ เบื้องต้นอาตมาบริจาคทุนซื้ออุปกรณ์ต่างไปแล้ว 60,000 บาท พื้นปูพรมสีเขียว บรรยากาศโอ่โถง สะอาด สวยงาม และยังได้รับการสนับสนุนที่นอนจาก อบจ.ร้อยเอ็ด พัดลมจากวัดต่างๆ ตลอดจนอาหารเครื่องดื่มจากผู้มีจิตศรัทธาสนับสนุนงบประมาณต่อเนื่อง นอกจากนี้ผู้ที่เข้ามาทำการรักษา จะได้รับฟังการแสดงธรรมเทศนา และแจกหนังสือธรรมะให้ด้วย
คนร้อยเอ็ดที่บ่มีหม่องรักษา คืนมารักษาบ้านเฮาเด้อ
ศูนย์ช่วยเหลือคนร้อยเอ็ดกลับบ้าน
สายด่วน 1567 043 519427