วันที่ 4 ก.ค.64 ที่ กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม อ.เมือง จ.นครพนม พล.ร.ต.จรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง น.อ.ชัชวาลย์ โตรุ่ง เสนาธิการ นรข. นาวาโท วรภัทร์ แสงวุวรรณ รรท.หัวหน้าสถานีเรือนครพนม ทหารพรรน ตชด.237 พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการสกัดยึด รถกระบะโตโยต้าสี่ประตู สีดำทะเบียน กท 294 พัทลุง และ รถโตโยต้า Fortuner สีเทาทะเบียน ฎฮ 6359 กรุงเทพมหานคร ได้ที่ริม ฝั่งแม่น้ำโขง บ้านนาเหนือ ม.7 ตำบลท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทนจังหวัดนครพนม
โดยเมื่อกลางดึกของวันที่ 4 ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ตำบลท่าอุเทน อำเภอทำอุเทน จังหวัดนครพนม
ซึ่งทาง น.อ.ฤทธิ์ นาทวงศ์ ผบ.นรข.เขตนครพนม ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ว่าจะมีการลักลอบนำรถยนต์ ออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน บริเวณ บ.นาเหนือ ม.7 ต.ท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จึงได้สั่งการให้ น.ท.วรภัทร แสงสุวรรณ รรท.หัวหน้าสถานีเรือนครพนม พร้อมประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการตรวจสอบข่าวพร้อมจัดชุดลาดตระเวนทางบกเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ และเฝ้าตรวจบริเวณดังกล่าวฯ โดยใช้กล้องกลางคืน ตรวจพบเรือต้องสงสัยแล่นข้ามจากประเทศเพื่อนบ้าน มาจอดริมฝั่งแม่น้ำโขง ของประเทศไทย และในเวลาเดียวกันมีรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 2 คัน ขับมาจอดริมฝั่งแม่น้ำโขงใกล้จุดที่เรือแล่นมาจอด ชุด เจ้าหน้าที่ จึงได้แสดงตัว เข้าทำการจับกุม เมื่อคนในเรือเห็น จึงได้ติดเครื่องแล่นเรือออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างรวดเร็ว จากการตรวจสอบพบรถยนต์นั่งส่วนบุคล จำนวน 2 คัน จึงได้นำมาที่ สนเรือนครพนม เพื่อทำการตรวจสอบ รายละเอียดเพิ่มเติม โดยมีของกลางที่ตรวจยึด คือ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล 7 ที่นั่ง ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น FORTUNER สีเทา ทะเบียน ฎฮ.6365 กรุงเทพมหานคร รถยนต์นั่งส่วนบุคคล 4 ประตู ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ขHILUX VEGO สีดำ ทะเบียน กท-294 พัทลุง นำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้านเจ้าหน้าที่เชื่อว่า รถยนต์ดังกล่าว เป็นรถยนต์ของขบวนการโจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติ ที่ลักลอบนำมาเตรียมส่งไปขายประเทศเพื่อนบ้าน ที่เคยมีการจับกุมหลายครั้ง โดยจะใช้วิธีการลำเลียงลงเรือหางยาวส่งต่อไปขาย ในราคาคันละประมาณ 2 -3 แสนบาท ตามสภาพ ส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์กระบะ ประเภทยกสูงและ รถ toyota Fortuner เบื้องต้น จากการตรวจสอบรถกระบะทั้งสองคัน พบเอกสารชื่อผู้ครอบครอง สัญญาซื้อขาย และหนังสือมอบอำนาจ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งตรวจสอบขยายผล สอบสวนหาที่มา รวมถึงสอบสาวนเจ้าของรถว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่เพื่อขยายผลถึงกลุ่มผู้ร่วมขบวนการต่อไป
ข่าว/ภาพ ประทีป วชิระธัญญากุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดนครพนม