จังหวัดกาฬสินธุ์พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อนต่อเนื่อง ล่าสุดพบติดเชื้อเพิ่มอีก 10 ราย เป็นกลุ่มนักศึกษาฝึกงานและค้าขายในพื้นที่กรุงเทพฯเดินทางกลับบ้าน ส่งผลยอดผู้ติดเชื้อสะสมถึง 224 ราย ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ระบุ กรณีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมีการขยายเพิ่มเตียงโรงพยาบาลสนามรองรับได้สบาย พร้อมขอความร่วมมือแรงงานกลับถิ่นจากพื้นที่เสี่ยงสูงเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว และกักกันตัวเอง 14 วัน ป้องกันการระบาดของเชื้อโควิด-19
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่เชื้อโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังพบผู้ป่วยยืนยันได้รับเชื้ออย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดวันนี้พบเพิ่มอีก 10 รายเป็นกลุ่มก้อน โดยเป็นผู้ติดเชื้อจาก กทม.และปริมณฑลที่เดินทางกลับภูมิลำเนา เป็นนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคเขาวงไปฝึกงานที่กรุงเทพฯ 4 ราย ที่เหลือ 6 ราย เป็นพ่อค้า แม่ค้า นักเรียน และนักศึกษาอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ แล้วเดินทางกลับมาภูมิลำเนา ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์สะสมรวม 224 ราย กำลังรักษาอยู่ 86 ราย รักษาหายแล้ว 134 ราย หายป่วยวันนี้ 7 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสมเท่าเดิมคือ 4 ราย
นายทรงพล กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของบุคลากรแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลสนามและเตียงผู้ป่วย โดยมีโรงพยาบาลกาฬสินธุ์เป็นหลัก โรงพยาบาลฆ้องชัย และโรงพยาบาลอำเภอต่างๆ รวมถึงโรงพยาบาลสนามหลังศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ หากเกิดกรณีพบผู้ป่วยเพิ่ม ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมเตียงรองรับผู้ป่วยไว้แล้วกว่า 300 เตียง ยืนยันว่ามีความพร้อมและสามารถรองรับผู้ป่วยได้อย่างไม่มีปัญหา อีกส่วนหนึ่งคือจากจำนวนผู้ที่เคยติดเชื้อและรักษาหายแล้ว ได้ทยอยส่งตัวกลับบ้าน ดังนั้นจึงมีเตียงเพียงพอ และสามารถรองรับผู้ป่วยอย่างไม่ติดขัดอะไร
นายทรงพล กล่าวอีกว่า สำหรับแรงงานคืนถิ่นที่จะเดินทางกลับบ้าน หรือผู้ป่วยที่มีผลยืนยันเป็นบวกและจะมาเข้ารับการบำบัดรักษาที่โรงพยาบาลในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์นั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อ จึงขอความร่วมมือประชาชนมีความรับผิดชอบต่อสังคมและปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เช่น จะต้องบอกข้อมูลว่าได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม หรือแอสตร้าเซเนก้า 1 เข็ม หรือจะเป็นในรายที่มาจากพื้นที่เสี่ยงจะต้องไม่เดินทางรถสาธารณะและไม่ปกปิดข้อมูล ให้กักกันตัวเองอย่างน้อย 14 วัน รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกันก็ให้อยู่ในการควบคุมดูแลของ 4 ทหารเสือ และปฏิบัติตนตามมาตรการ D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัดอีกด้วย
