นครพนม-เกษตรจังหวัดนครพนม ชวนเกษตรกรเร่งขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2564 แนะใช้แอพลิเคชัน Farmbook ลดความเสี่ยงโควิด – 19

“อยู่บ้านก็ทำได้” เกษตรจังหวัดนครพนม ชวนเกษตรกรเร่งขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2564 แนะใช้แอพลิเคชัน Farmbook ลดความเสี่ยงโควิด – 19


สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม เชิญชวนเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2564 เพื่อนำข้อมูลไปใช้วางแผนการผลิต การตลาด และส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรได้อย่างถูกต้องเหมาะสม พร้อมรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ
นางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูกข้าวของเกษตรกรแล้ว สำรับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครพนม เริ่มมีการเพาะปลูกข้าวแล้วในทุกอำเภอ ประกอบกับมีปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในช่วงนี้ ทำให้ชาวนาและพี่น้องเกษตรกรที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยน้ำสำหรับการทำการเกษตรอยู่ต่างก็ดีใจกันถ้วนหน้า แต่สิ่งที่เกษตรกรจะต้องให้ความสำคัญนั่นคือการแจ้งขึ้นและปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกร ปี 2564 สำหรับกรอบระยะเวลาการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร เกษตรกรสามารถแจ้งขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้หลังจากเพาะปลูกพืชไปแล้ว 15 – 60 วัน และกรณีแปลงใหม่จะมีกระบวนการตรวจสอบพื้นที่ แต่สำหรับแปลงเดิมนั้น หลังจากรับแจ้งข้อมูลแล้ว จะใช้วิธีการปิดประกาศเป็นเวลา 3 วัน เพื่อให้เกษตรกรตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียนของตนเองและของเกษตรกรในชุมชน พร้อมเซ็นชื่อรับรองข้อมูลของตนเองด้วย
เกษตรกรรายใหม่สามารถแจ้งขึ้นและปรับปรุงข้อมูลได้ ณ สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก เกษตรกรรายเดิมสามารถปรับปรุงข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่งหรือปรับปรุงผ่านแอปพลิเคชัน Farmbook ซึ่งทางกรมส่งเสริมการเกษตรได้ทำการปรับปรุงแอปพลิเคชัน Farmbook ให้สามารถตรวจสอบผลการรับเงินจากการเข้าร่วมโครงการของภาครัฐ เช่น โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 โครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย และมาตรการช่วยเหลืออื่น ๆ จากภาครัฐ ให้เกษตรกรสามารถตรวจสอบการรับเงินได้ภายในแอปพลิเคชัน Farmbook โดยการเข้าสู่ระบบ จากนั้นเลือกหัวข้อ “ติดตามสิทธิ์” แล้วเลือกชื่อโครงการที่ต้องการตรวจสอบ
สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนเกษตรกร
– ครัวเรือนเกษตร 1 ครัวเรือน จะมีผู้แทนมาขอขึ้นทะเบียนได้ เพียง 1 คน ซึ่งจะถือว่าเป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตร โดยไม่จําเป็นต้องเป็นหัวหน้าครัวเรือนตามทะเบียนบ้าน และหากเป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตรแล้ว จะไม่สามารถเป็นสมาชิกของครัวเรือนเกษตรอื่นได้อีก
– กําหนดให้สามี ภรรยา สามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกร ได้เพียง 1 ครัวเรือนเกษตรเท่านั้น
1. กรณีที่สามีภรรยา อยู่กินทางพฤตินัย ทั้งที่จดทะเบียนสมรสและมิได้จดทะเบียนสมรส แต่สังคมรับรู้โดย เปิดเผยว่าอยู่ร่วมชายคาบ้านเดียวกันฉันท์สามีภรรยา แม้จะมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านคนละหลังให้ถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน
2. กรณีที่สามีภรรยา หย่าขาดจากกันแต่สังคมรับรู้โดยเปิดเผยว่ายังมีพฤติกรรมกินอยู่ร่วมชายคาบ้านเดียวกัน ฉันท์สามีภรรยา แม้จะมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านคนละหลังให้ถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน
– การขึ้นทะเบียนเกษตรกร รับขึ้นทะเบียนทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล
1. บุคคลธรรมดา ซึ่งประกอบการเกษตร (เป็นผู้ลงทุน หรือได้รับผลประโยชน์จากการทําการเกษตรนั้น) จะมีผู้แทน มาขอขึ้นทะเบียนในนามครัวเรือนได้เพียง 1 คน
2. นิติบุคคลที่มีวัตถุประสงค์ในการประกอบการเกษตร โดยมอบหมายบุคคลที่ได้รับมอบอํานาจจากผู้มีอํานาจของนิติบุคคลให้เป็นผู้ขอขึ้นทะเบียนในนามนิติบุคคล ทั้งนี้บุคคลนี้อาจมีครัวเรือนเกษตร ที่เป็นบุคคลธรรมดาของตนเองด้วยก็ได้

– สามารถขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ทั้งในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์และไม่มีเอกสารสิทธิ์ ดังนี้
1. พื้นที่มีเอกสารสิทธิ์
1.1 เอกสารสิทธิตามกฎหมายที่ดิน
1.2 ที่ดินที่มีหนังสืออนุญาตการใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ
1.3 ที่ดินที่มีหนังสือรับรองผู้ทําประโยชน์ในเขตที่ดินของรัฐ
2. พื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ อนุโลมให้เกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนได้ เพื่อให้ทราบสถานการณ์การเพาะปลูกของเกษตรกร และ ประมาณการผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดในช่วงเวลาต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง แต่จะต้องมีผู้นําชุมชนเป็นผู้รับรองการเข้าใช้ประโยชน์ ในพื้นที่ โดยเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนต้องไม่อ้างกรรมสิทธิ์หรือถือครองพื้นที่นั้น ทั้งนี้ ให้รวมถึงพื้นที่ในเขต ป่าไม้ ป่าอุทยานแห่งชาติ ป่าสงวนแห่งชาติ และให้หมายรวมถึงเอกสารบางประเภท

“ดังนั้น จึงขอเน้นย้ำว่าหากเกษตรกรปลูกข้าวหรือพืชอื่นแล้ว ให้เร่งมาปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน เพื่อสิทธิประโยชน์ของตัวเกษตรกรเอง แต่เนื่องจากว่าสถานการณ์การแพร่ระราดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 หากพี่น้องเกษตรกรเดินทางไปยังสำนักงานเกษตรอำเภอเป็นจำนวนมากจะทำให้เกิดความแออัด และเกิดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ได้ ซึ่งในขณะนี้สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ได้ให้สำนักงานเกษตรอำเภอทั้ง 12 อำเภอ ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้คำแนะนำ และถ่ายทอดความรู้การขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ผ่านแอปพลิเคชัน Farmbook เพื่ออำนวยความสะดวกและลดการแออัดของเกษตรกรที่จะเข้าไปใช้บริการที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่งได้
จึงขอเชิญชวนให้เกษตรกรมาปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรโดยด่วน สำหรับเกษตรกรรายใหม่หรือแปลงใหม่ในการเพาะปลูก ให้สอบถามทางโทรศัพท์ไปยังสำนักงานเกษตรหรือผู้นำชุมชนถึงแนวทางปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงช่วงการระบาดของโรคโควิด – 19 ด้วย” ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง ยินดีให้บริการกับพี่น้องเกษตรกรอย่างเต็มที่ ดุจเสมือนญาติมิตร มีรอยยิ้มกลับบ้านกันทุกคน เกษตรจังหวัดนครพนม กล่าวตอนท้าย

ภาพ /ข่าว : กลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ
สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม
ประทีป วชิระธัญญากุล นครพนม รายงาน