ไม่กักตัวรายแรกของจังหวัดหนองบัวลำภู สั่งดำเนินคดีก่อให้เกิดกลุ่มเสี่ยงติดโควิด-19 นายอำเภอศรีบุญเรือง สั่งดำเนินคดีก่อให้เกิดกลุ่มเสี่ยงติดโควิด-19 รายที่ 63 ชายอายุ 35 ปี ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัดหนองบัวลำภู ให้กักตัวในบ้านพักและออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ทำให้เกิดกลุ่มผู้เสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโควิด 23 ราย
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ว่าได้รับแจ้งจากนายสุภโชค พนาลิกุล นายอำเภอศรีบุญเรือง ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอศรีบุญเรือง (ศปก.อ.ศรีบุญเรือง) และเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ จากสถิติผู้ป่วยที่พบการติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 82 รายของจังหวัดหนองบัวลำภู ว่าพบผู้ป่วย covid -19 รายที่ 63 ของจังหวัดหนองบัวลำภู ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้กักกันตัวและยังออกไปนอกที่พักพบปะคนจำนวนมาก มีผลกระทบเป็นวงกว้าง มีผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงต่อการรับเชื้อสูงถึง 23 ราย จึงได้ส่งหนังสือถึงผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรศรีบุญเรือง เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ป่วยรายดังกล่าวในฐานะผู้ต้องหา
สำหรับผู้ป่วย covid – 19 รายที่ 63 เพศชาย อายุ 35 ปีรายนี้มี ภูมิลำเนา ตำบลโนนสะอาด อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดจังหวัดฉะเชิงเทรา กลับภูมิลำเนาที่อำเภอศรีบุญเรือง ตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม 2564 ผ่านกระบวนการคัดกรองปรากฏผลเป็นผู้เสี่ยงสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหินตลาด จึงมีคำสั่งให้ปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ 11/2564 โดยให้กักกันตัว 14 วัน แต่ผู้ป่วยรายดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามและได้ออกไปนอกที่พักพบปะผู้คนจำนวนมาก จนกระทั่งวันที่ 6 มิถุนายน 2564 ทราบผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อโควิด – 19
จึงทำให้มีผลกระทบเป็นวงกว้าง มีผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อสูงถึง 23 ราย ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการฝ่าฝืน ข้อ 3 (3.1) แห่งคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองบัวลำภูที่ 11/2564 อาศัยอำนาจตามมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ประกอบข้อ 2 (2) แห่งข้อกำหนด ออกความออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 23) ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาทตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 แต่เนื่องจากผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการรับการรักษาในสถานพยาบาล เมื่อได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล และกักตัวครบ 14 วัน พนักงานสอบสวนจะได้ทำการสอบสวนต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า ขณะนี้จำนวนผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีผู้ป่วยสะสม 82 ราย สาเหตุส่วนใหญ่คือเป็นผู้ใช้แรงงานและประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมี 3 กรณี คือ กรณีที่ 1 ทราบว่าตนเองติดเชื้อ จะได้รับการนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล กรณีที่ 2 อยู่ระหว่างรอผลการตรวจจะได้รับคำสั่งให้กักกันตัว และ กรณีที่ 3 ผู้ที่ไม่ได้ขอรับการตรวจหาเชื้อ ซึ่งในกรณีที่อยู่ระหว่างรอผลการตรวจจะต้องกักกันตัวให้ครบ 14 วัน หากผู้ได้รับคำสั่งแล้วไม่ปฏิบัติตาม ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง กรณีนี้ จึงต้องสั่งดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้ป่วยรายอื่น
ที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องร่วมมือกันป้องกันยับยั้งโควิด-19 ไม่ให้แพร่กระจายจนไม่สามารถควบคุมได้ เพราะจะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่หนองบัวลำภู จึงขอความร่วมมือผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงหากได้รับคำสั่งจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ให้กักกันตัว 14 วัน ขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษทางกฎหมายสูงสุด และที่สำคัญหมายเลขโทรศัพท์ที่ผู้จะเดินทางเข้าออกจังหวัดหนองบัวลำภู เมื่อทราบว่าติดเชื้อรอรับการรักษาก่อนเดินทางกลับภูมิลำเนาไม่น้อยกว่า 7 วันจะต้องแจ้ง 0972620828
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์/ปรานี ผาดำ ขตว.จังหวัดหนองบัวลำภู