สถานบันเทิงที่จังหวัดขอนแก่น ได้หันขายข้าวแกงเพื่อจะได้มีรายได้ในการดูแลพนักงาน หลังจากการระบาดระลอก 3 ที่มีคลัสเตอร์กลุ่มใหญ่ สถานบันเทิง และเกิดการระบาดที่รุนแรง จนทำให้มีคำสั่งปิดบริการ
วันที่ 29 เม.ย 64 พนักงานบริการในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น กว่า 20 คน ปรับตัวเองมาเป็นพนักงานขายข้าวราดแกงแทน แม้ว่าช่วงแรกอาจจะลำบาก ในการปรับพฤติกรรมส่วนตัว เนื่องจากปกติ จะต้องพักผ่อนในช่วงกลางวัน และทำงานในช่วงกลางคืน
นางสาวหยาดอรุณ ใจสูงเนิน พนักงานบัญชี เล่าว่า เธอทำหน้าที่เก็บเงิน ที่สถานบันเทิง มาเป็นเวลา 15 ปี ชีวิตส่วนใหญ่ จะพักผ่อนตอนกลางวัน เพื่อเริ่มทำงานตอน 2 ทุ่ม เลิกงานตี 2 แต่เมื่อสถานบันเทิงถูกสั่งปิดเธอก็ต้องปรับตัว มาทำงานในช่วงเวลากลางวัน แม้ช่วงแรก จะยอมรับว่า ค่อนข้างลำบาก เพราะร่างกายยังปรับตัวไม่ได้ เช่นเดียวกับพนักงานประจำ คนอื่นๆ เช่นพนักงานเสิร์ฟหลายคน ที่มีทักษะงานช่างก็จะทำหน้าที่ต่อเติมร้านข้าวแกง บางส่วน ที่เคยเสิร์ฟอาหาร ก็ต้องไปช่วยงานในครัว โดยหวังว่า รัฐบาลจะสามารถควบคุมการระบาดได้โดยเร็ว
ด้านนายภาณุ ธีรภานุ ผู้ประกอบการธุรกิจสถานบันเทิง บอกว่า แม้จะมีธุรกิจหลายอย่าง แต่ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน แม้รัฐบาลจะยังอนุโลมให้สามารถเปิดร้านได้ถึง 21 นาฬิกา แต่ก็พบว่าแทบไม่มีคนเข้าใช้บริการ รวมทั้งร้านเนื้อย่าง จุดนี้ ที่เปิดรองรับพนักงานในช่วงการระบาดระลอก 2 ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน จนกระทั่งได้หารือร่วมกับพนักงาน ว่า จะทำอย่างไร เพื่อให้อยู่รอด ซึ่งส่วนใหญ่ เลือกที่จะยังทำงานบริการ นั่นก็คือเสิร์ฟอาหาร จึงใช้สถานที่เดียวกันกับร้านเนื้อย่างที่เปิดช่วงเย็น มาเปิดร้านข้าวราดแกง ได้ เพียง 4 วัน และแบ่งพนักงานประจำที่ทำงานในสถานบันเทิง ออกเป็น 2กลุ่ม เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์โควิด 19 ระลอกนี้ หากการระบาดยังไม่ดีขึ้น
จังหวัดขอนแก่น เป็น 1 ใน 41 จังหวัดที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ศบค.ปิดสถานบันเทิง อย่าง 14 วัน ทั้งผับ บาร์ คาราโอเกะ ทั้งในกรุงเทพ และจังหวัดท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ วันที่ 10เมษายน ซึ่งแนวโน้มการระบาดในพื้นทีที่ยังไม่ลดลง อาจทำให้การสั่งปิดต้องยาวนานขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน จังหวัดขอนแก่น ยังพบติดเชื้อรายใหม่ อีก 11 คน สะสม 363คน
