จากภาวะฝนทิ้งช่วงนานหลายสัปดาห์ทำให้พื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ประสบภัยแล้งต่อเนื่อง โดยเฉพาะแหล่งน้ำตามธรรมชาติและแหล่งน้ำสาธารณะหลายพื้นที่เริ่มแห้งขอด ส่งผลให้เกษตรกรไม่มีน้ำปลูกพืชและใช้เลี้ยงสัตว์ ขณะที่สถานการณ์เขื่อนลำปาวปริมาณน้ำเหลือเพียง 479 ล้าน ลบ.ม.หรือ 24% หลังฝนไม่ตกไม่มีน้ำเติมเข้าอ่างเก็บ ด้านนายฤาชัย จำปานิล ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวยืนยันการบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามแผนและเพียงพออุปโภค บริโภคในช่วงหน้าแล้ง
เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากภาวะฝนทิ้งช่วงนานหลายสัปดาห์ และยังอยู่ในฤดูแล้งและอากาศร้อน ส่งผลกระทบกับประชาชนเริ่มขยายวงกว้างมากขึ้น โดยจากการสำรวจสภาพพื้นที่ทั้งนอกเขตชลประทาน และในเขตชลประทาน พบว่าประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มประกอบอาชีพเกษตรกรรมและประมง ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ซึ่งได้ขยายตัวในวงกว้าง เนื่องจากภาวะฝนทิ้งช่วง และเข้าสู่ฤดูแล้งอย่างเต็มตัว ส่งผลให้ปริมาณน้ำตามอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก และลำคลองธรรมชาติ หรือแหล่งน้ำสาธารณะหลายแห่งเริ่มแห้งขอด ไม่มีน้ำสำหรับหล่อเลี้ยงพืชผล เลี้ยงสัตว์ หรือสูบขึ้นมาทำการเกษตร เช่น ลำน้ำปาว ที่เสมือนเป็นเส้นโลหิตหล่อเลี้ยงประชากรชาว จ.กาฬสินธุ์หลายอำเภอ บางจุดได้ลดน้อยลงต่ำกว่าฐานตอม่อสะพานข้ามลำปาว หลายจุดเกิดสันดอนเป็นระยะๆ สามารถเดินข้ามฝั่งได้
ขณะเดียวกัน ในส่วนของเกษตรกรที่เคยปลูกข้าวนาปรัง เขต ต.ดอนสมบูรณ์ ต.บัวบาน ต.นาเชือก อ.ยางตลาด และ ต.หลุบ ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ รวมทั้ง อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย บางตำบล ที่เคยเพาะปลูก ทำการเกษตร และทำนาปรังในฤดูแล้งทุกปี แต่ปีนี้ไม่ได้ทำนาปรัง และสร้างรายได้ เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้ง น้ำเขื่อนเหลือน้อย ไม่สามารถที่จะส่งน้ำให้พื้นที่การเกษตรซึ่งอยู่พื้นที่ท้ายน้ำอย่างเต็มที่
สำหรับสถานการณ์น้ำเขื่อนลำปาวล่าสุดเหลือปริมาณน้ำอยู่เพียง 479 ล้าน ลบ.ม. หรือ 24% จากความจุอ่าง 1,980 ล้าน ลบ.ม.หลังฝนในพื้นที่ไม่ตกจึงไม่มีน้ำเติมเข้าอ่างเก็บน้ำลำปาว โดยทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวได้ระบายน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ วันละประมาณ 3 ล้าน ลบ.ม.
ด้านนายฤาชัย จำปานิล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวหรือเขื่อนลำปาว กล่าวว่าสำหรับแผนการบริหารจัดการน้ำเขื่อนลำปาวในปีนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ทำให้ปริมาณน้ำที่ได้มีการวางแผนไว้กับการใช้จริงก็อยู่ในเกณฑ์ที่จั้งเป้าไว้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงท้ายในการส่งน้ำให้กับเกษตรกรปลูกพืชฤดูแล้ง โดยทางโครงการฯคาดว่าจะประกาศหยุดส่งน้ำในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้แต่ก็จะมีการลงพื้นที่ประเมินสถานที่จริงอีกครั้ง เพื่อดูความเหมาะสม เนื่องจากมีหลายพื้นที่ที่ลงมือทำนาปรังช้า แต่เบื้องต้นคาดว่าจะประกาศในวันที่ 30 เมษายน 2564
นายฤาชัย กล่าวอีกว่า หลังจากหยุดส่งน้ำแล้วก็จะมีการซ่อมแซมคลองส่งน้ำและดูแลขุดลอกตะกอนดินเตรียมความพร้อมของคลองไว้สำหรับการส่งน้ำเพาะปลูกข้าวฤดูฝนที่จะดำเนินการส่งน้ำในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2564 อย่างไรก็ตามสำหรับในช่วงหน้าร้อนหรือฤดูแล้งนี้ได้ประเมินไว้ว่าสิ้นสุดการทำนาปรังแล้วเขื่อนลำปาวจะเหลือน้ำอยู่ประมาณ 450 ล้าน ลบ.ม.ยืนยันว่าปริมาณน้ำเพียงพอในการหล่อเลี้ยง และเพียงพอต่อการอุปโภคจนถึงหน้าฝนอย่างแน่นอน