วันนี้(15 เม.ย.64) ผู้สื่อข่าวรายงานข้อมูลข่าวจากศูนย์ปฏิบัติการ เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค COVID-19 จังหวัดหนองบัวลำภู สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผวจ.หนองบัวลำภู กล่าวว่าจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ ซึ่งวันนี้มียอดตัวเลขพุ่งทะยานราวติดจรวด เพิ่มเป็น 4 รายต่อจากเมื่อวาน 3 รายรวมเป็น13 ราย จากมีผู้เดินทางมาจากต่างจังหวัดมาเยี่ยมบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ของจังหวัดหนองบัวลำภู ยอดรวมประมาณ 11.000 กว่าคน และมีส่วนหนึ่งเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงเข้ารายงานตัวและกักตัว เข้าเดินทางเข้าตรวจรักษาในพื้นที่พบเชื้อไวรัสโควิด-19 วันเดียว 4 ราย จากเมื่อวาน 3 ราย รวมเป็น 7 ราย ใน 2 วันติดต่อกัน ยอดรวมสะสมอยู่ที่ 13 ราย จากตัวเลขที่มีผู้เดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู และขณะนี้กำลังทะยอยเดินทางกลับ จึงอาจจะเป็นข้อมูลให้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา -19 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผวจ.หนองบัวลำภู กล่าวว่าสำหรับรายที่ 10 เป็นหญิงไทย อายุ 35 ปี ภูมิลำเนาอยู่ตำบลทรายทอง อำเภอศรีบุญเรือง อาชีพนักงานบริษัท อยู่จังหวัดสมุทรปราการ เดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 9 เมย.64 โดยรถยนต์ส่วนตัวแวะเข้าปั้ม ปตท.และซื้ออาหารร้านไก่ย่างไดโนเสาร์ ร้านกาแฟ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น และตลาดโต้รุ่ง อ.ศรีบุญเรือง จากนั้นมาโรงพยาบาลศรีบุญเรือง ตรวจหาเชื้อโควิด-19 พร้อมกัน 4 คน(แม่ ลูก หลาน)และพักรักษาตัวใน รพ.ศรีบุญเรือง และออกจาก รพ.ศรีบุญเรือง เนื่องจากตรวจไม่พบเชื้อ จากนั้นมีอาการตาแดงทั้ง 2 ข้าง ปวดตา ตาพร่ามัว มีน้ำมูกข้น ระคายคอ ไอมีเสมหะ ไม่มีไข้ จึงไปรักษาที่ รพ.หนองบัวลำภู และกลับมานอนบ้าน จนเวลา 23.00 น.จึงทราบผล ต่อมาวันที่ 14 เมย.64 รถ รพ.ศรีบุญเรือง จึงเดินทางมารับการรักษาตัวที่ รพ.ศรีบุญเรือง ทั้ง 4 คน
ในขณะที่ นายสุเมธ ศรีสงคราม นายก อบต.ทรายทอง อ.ศรีบุญเรือง หลังมีการตรวจพบเชื้อโควิด-19 ที่บ้านเหล่านาดี ต.ทรายทอง จนท.รพ.สต. สาธารณสุข และ รพ.ศรีบุญเรือง อสม.ชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ โดย อบต.ทรายทอง สนับสนุนเครื่องพ่น ชุดป้องกัน ในการปฏิบัติการเพื่อความมั่นใจของชาวบ้าน
สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด รายที่ 11 เป็นชายไทย อายุ 20 ปี ภูมิลำเนาอยู่ตำบลโนนเมือง อ.นากลาง เดินทางมาจากสนามบินดอนเมือง สายการบินนกแอร์ เที่ยว DD-304 ถึงจังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 6 เมย.64 เดินทางโดยรถประจำทาง ถึงบ้านพัก เมื่อเวลา 14.00 น.จากนั้นอยู่ร่วมกับครอบครัว และได้รับแจ้งจากผู้โดยสารเที่ยวบินเดียวกันติดเชื้อโควิด-19 ในขณะที่ผู้ป่วยไอเล็กน้อย ไม่มีไข้ จึงเดินทางไปตรวจรักษา ที่ รพ.หนองบัวลำภู และเมื่อวันที่ 14 เมย. 64 จึงทราบผลการตรวจพบเชื้อโควิด-19 และในเวลาต่อ รพ.นากลาง จึงเดินทางมารับไปรักษาในห้องแยกโรค
รายที่ 12 .เป็นชายไทย อายุ 41 ปี ภูมิลำเนาอยู่ตำบลกุดแห่ อ.นากลาง อาชีพลูกจ้างบริษัท ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น มีการสัมผัสกับเพื่อนร่วมงานจากจังหวัดนครราชสีมา เดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 11 เมย. และ วันที่ 13 เมย.64 ไปตรวจหาเชื้อที่ รพ.หนองบัวลำภู ด้วยรถยนต์ส่วนตัว และทำการกักตัวที่บ้านสวน จนเมื่อวันที่ 14 เมย.64 เมื่อเวลา 01.55 น.จึงทราบผลสารพันธุกรรมไวรัสโควิด -19 และเดินทางเข้าพักรักษาตัวที่ห้องแยกโรค รพ.นากลาง
และรายสุดท้าย รายที่ 13 วันนี้ เป็นชายไทย อายุ 20 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ตำบลลำภู อ.เมืองหนองบัวลำภู อาชีพ นักศึกษา เดินทางมาจากจังหวัดชลบุรี และเดินทางกลับจังหวัดหนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 6 เมย.64 เดินทางกลับด้วยรถทัวร์นครชัยแอร์ ในเวลา 21.15 น.และในวันที่ 7 – 12 เมย.64 อยู่บ้านและไปซื้ออาหารในพื้นที่ใกล้บ้าน จนมีอาการเวียนศีรษะ และไอ ไม่มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ในวันที่ 13 เมย.64 จึงเดินทางไปตรวจหาเชื้อด้วยรถยนต์ส่วนตัว และวันที่ 14 เมย.64 เมื่อเวลา 01.53 น.จึงทราบผลการตรวจพบสารพันธุกรรมเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และในเวลา 09.00 น.เข้ารับการรักษาตัวที่ห้องแยกโรค รพ.หนองบัวลำภู
ในขณะเดียวกัน ผวจ.หนองบัวลำภู ได้มีหนังสือด่วนที่สุด วันนี้ถึงหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และ นายอำเภอทุกพื้นที่ แจ้งมาตรการฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยผู้มีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายใน 14 วัน และหรือผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ต้องรายงานตัวทันทีต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือประธานชุมชน และ อสม.หรือเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำชุมชน (รพ.สต.) และให้กักกันตัวที่พำนัก (Home Quarantine) จนครบ 14 วัน เว้นแต่ต้องออกจากพื้นที่ก่อนครบ 14 วัน นั้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในช่วงเวลาที่ผ่านมาพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ประกอบกับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2564 มีประชาชน เดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงขอให้ส่วนราชการทุกส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง อำเภอทุกอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง กำชับบุคลากรให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค (D-M-H-T-T) ที่ทางราชการกำหนด กรณีบุคลากรในสังกัดมีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายใน 14 วัน และหรือเดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง ให้ปฏิบัติการตามมาตรการค้นหาผู้ติดเชื้อโดยเคร่งครัด โดยหากพบว่า บุคคลากรรายดังกล่าวมีความเสี่ยงสูง ให้ส่วนราชการพิจารณาอนุญาตให้ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง(Work from Home) ตามระเบียบที่เกี่ยวข้องได้ตามความเหมาะสมในแต่ละกรณี
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์/ขตว.จังหวัดหนองบัวลำภู