จากกรณีรถทัวร์โดยสารบริษัท 407 พัฒนา ทะเบียน 10-7387 อุดรธานี สายอุดรธานี –กรุงเทพ เกิดไฟไหม้ที่บริเวณเครื่องยนต์ด้านหลังก่อนที่จะลุกลามไหม้ทั้งคันย่างสดผู้โดยสาร 5 ศพ และบาดเจ็บ 12 ราย ที่ ที่ริมถนนมิตรภาพ พื้นที่บ้านหนองขาม ต.โนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งหาเหตุ และตรวจอัตลักษณ์บุคคล เพื่อนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศล เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา
วันที่ 14 เมษายน 2564 เวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านน.ส.สุกัลยา เกษหอม หรือหวาน อายุ 28 ปี เลขที่ 57 หมู่ 14 บ้านสุขสมบูรณ์ ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็น 1 ใน 5ผู้เสียชีวิตโดนย่างสดบนชั้นสองของรถทัวร์ โดยพบว่าญาติพี่น้องได้มานั่งรอรับศพ ต่างมีสีหน้าเศร้าโศก โดยนางนิธิวดี สิงไคตัน ผญบ.บ้านสุขสมบูรณ์ ได้เดินทางมาสอบถาม ศพ น.ส.สุกัลยา เกษหอม หรือหวาน จะมาถึงบ้านเกิดวันไหน เพื่อจะรายงานให้นายอำเภอทราบ
นางพันธ์ คุ้มตะบุตร อายุ 70 ปี ยายผู้ตาย บอกว่า แม่และพี่ชาย ได้เดินทางไปติดต่อขอรับศพ น.ส.สุกัลยา ที่ จ.ขอนแก่น ส่วนญาติได้แต่นั่งรอฟังข่าว และเตรียมจัดพิธีศพที่บ้าน ตนและญาติที่ทราบข่าวต่างรู้สึกเสียใจ เพราะผู้ตายเป็นคนดี มีน้ำใจกับญาติพี่น้อง ส่วนตนเลี้ยงผู้ตายมาตั้งแต่เกิดมา เพราะพ่อกับแม่แยกทางกัน ทำให้ตนรักหลานคนนี้มาก โดยผู้ตายแต่งงานกับนายสังสรรค์ ทาสีแสง อายุ 34 ปี หลายปีแล้ว มีอาชีพรับจ้าง แต่ยังไม่มีลูก และผู้ตายก็ยังกลับบ้านมาดูแลยายตลอด
ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายมาเล่าให้ฟังว่า น้องสาวซึ่งทำงานรับเหมาทาสีที่กรุงเทพฯ ได้โทรศัพท์มาชวนให้ไปทำงานทาสีช่วย เพราะรับเหมางานทาสีไว้ ผู้ตายและสามีรับปากน้องสาว จะเดินทางในวันที่ 18 เมษายน หรือหลังสงกรานต์ โดยจะนำรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงินไปด้วย แต่พอเช้าวันที่ 13 เมษายน ได้ทราบข่าวว่ารถทัวร์ 407 เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้คลอกผู้โดยสาร 5 ศพ บาดเจ็บหลายราย ซึ่งผู้เสียชีวิตมี น.ส.สุกัลยา รวมอยู่ด้วย ที่จำได้เพราะศพมีสร้อยคอสแตนเลสที่ผู้ตายใส่ประจำสวมคออยู่ด้วย ส่วนสามีได้รับบาดเจ็บสาหัส โดนไฟลวกตามร่างกาย ตนรู้สึกเสียใจมาก ร้องไห้ตลอดเวลา เพราะสงสารหลาน เพราะวันสงกรานต์ทุกปีผู้ตายจะทำขันธ์ 5 มารดน้ำดำหัวยาย ปีนี้ผู้ตายไม่มาตนก็นั่งรอ และมาทราบข่าวร้าย
“ถ้าหลานมาบอกว่าจะเดินทางไปกรุงเทพฯ วันสงกรานต์ ตนจะห้ามไม่ให้ไป เพราะถ้าไปวันสงกรานต์ก็ไม่มีใครอยู่ ทุกคนกลับบ้านหมด แต่หลานแอบไปกับสามีโดยไม่บอกยายเลย กระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ไม่มีหลานแล้วตนจะเรียกหาใคร ใครจะมาดูแลยายทำให้น้ำตาไหลออกมา
ส่วน น.ส.วันนิสา ชุมจันทร์ อายุ 31 ปี ญาติผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า โตมาด้วยกัน ผู้ตายเป็นคนอ้วน มีนิสัยร่าเริง หาของกินอร่อยมาได้ก็จะเอามาให้ตนกับยายก่อน ก่อนเกิดเหตุ ประมาณ 3-4 วันผู้ตายได้ขอกระเป๋าสะพายสีเหลือง ราคา 3,000 กว่าบาท จากตนหลายครั้ง ตนถามว่าจะเอากระเป๋าไปทำไม ผู้ตายบอกว่าอยากได้กระเป๋าสวย จะเอาไปสะพาย ตนก็รับปากว่าจะให้ โดยบอกว่าจะฝากระเป๋าไว้กับยาย วันที่ 12 เมษายน ให้มาเอา แต่ผู้ตายก็ไม่มาเอากระเป๋า กระทั่งเวลา 11.00 น. วันที่ 13 เมษายน น้องสาวที่กรุงเทพฯ โทรมาบอกว่า รถทัวร์ที่ น.ส.สุกัลยาโดยสารไปกรุงเทพไฟไหม้ ไม่นานน้องสาวก็โทรมาบอกอีกว่าผู้ตายโดนไฟคลอกเสียชีวิต ส่วนสามีบาดเจ็บสาหัส รู้สึกจุกอก เสียใจ เพราะไปแบบไม่ได้สั่งลา ซึ่งตนจะนำกระเป๋าที่ผู้ตายอยากได้ไปบังสุกุลให้ผู้ตาย
ส่วนนางนิธิวดี สิงไคตัน ผญบ.บ้านสุขสมบูรณ์ เปิดเผยว่า ทราบข่าวว่ารถทัวร์ 407 ไฟไหม้รถ ไม่เคยคิดว่าผู้ตายจะมีลูกบ้านด้วย ต่อมามีญาติผู้ตายโทรไปบอก ซึ่งครั้งแรกว่าศพจะกลับมาบ้านวันที่ 15 เมษายน ซึ่งกำนันได้แจ้งมาว่านายอำเภอจะเดินทางมาร่วมงาน ซึ่งติดตามตลอดเวลา และมาทราบอีกว่าศพจะกลับมาบ้านวันที่ 16 เมษายน ซึ่งหากมีญาติมาร่วมงาน ก็จะจัดให้ อสม.มาดูแลตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ซึ่ง น.ส.สุกัลยา ผู้ตาย จะเป็นคนนิสัยดี ชอบช่วยเหลืองานบุญ งานประเพณี เพราะเป็นคนสนุก จะเป็นผู้นำฟ้อนรำ ทั้งงานแข่งเรือ งานบวช งานบุญ รู้สึกเสียดายมาก
////////////รัฐธนินท์อุดร