นายณรงวิทย์ ชดช้อย ผู้ช่วยผู้อำนวยการสวนสัตว์นครราชสีมา รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสวนสัตว์ขอนแก่น เปิดเผยว่า สวนสัตว์ขอนแก่น ได้รับข่าวดี เมื่อแมวน้ำสายพันธุ์ ขนปุยอเมริกาใต้ (South Amarican Fur Seal) ชื่อวิทยาศาสตร์ Arctocephalus australid ได้ออกลูกสมาชิกใหม่ตัวแรกของสวนสัตว์ขอนแก่น จำนวน 1 ตัว (ยังไม่ทราบเพศ) เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 14 มีนาคม 2564 โดยเกิดจาก แม่ชื่อ โลล่า อายุ 13 ปี และพ่อชื่อ ซีซ่า อายุ 8 ปี แม่ของน้องแมวน้ำยังมีนิสัยดี และเลี้ยงลูกเก่งอีกด้วย ขณะนี้ทางสวนสัตว์ได้ให้สัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์ ดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากแม่โลล่ามีอาการหวงลูกอ่อนมาก ซึ่งเป็นพฤติกรรมเพื่อปกป้องอันตรายจากลูกน้อยของเธอ
สำหรับแมวน้ำขนปุยอเมริกาใต้เป็นแมวน้ำที่มีรูปร่างสั้นและเตี้ย มีจมูกและปากที่แหลมแต่ตรงส่วนบนมีลักษณะแบน ยาวปานกลาง มีหน้าผากที่เห็นได้ชัดเจน หนวดสีขาวครีม มีใบหูขนาดใหญ่ ตัวผู้และตัวเมียจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน ตัวผู้จะมีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากกว่าตัวเมีย และมีแผงคอที่ยาวกว่า นอกจากนี้ ยังมีลำคอและหัวไหล่ที่หนากว่าด้วย ตัวผู้ที่โตเต็มที่จะมีลำตัวสีเทาอมดำ บางครั้งจะมีลำตัวเป็นสีเทาเล็กน้อย ตัวผู้ที่ยังไม่โตเต็มที่จะมีลำตัวสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงสีดำอมเทา และมีสีที่ซีดกว่าตามหน้าท้องขนตามครีบส่วนบนค่อนข้างจะมีสีเข้ม ลูกแมวน้ำที่เพิ่งเกิดใหม่จะมีขนสีดำและและเมื่อมีอายุได้ประมาณ 3 ถึง 4 เดือนสีตามขนจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่งจนกระทั่งมันโตเต็มที่ แมวน้ำสายพันธุ์นี้มีลักษณะเช่นเดียวกันแมวน้ำสายพันธุ์อื่นๆซึ่งมีขนที่มีลักษณะนิ่ม และมีหลายชั้น ส่วนขนตามหน้าท้องจะมีลักษณะสั้น หนา และขนชั้นนอกจะมีลักษณะค่อนข้างแข็ง อาหาร : กุ้ง หอย ปู ปลา และปลาหมึก ซึ่งบางครั้งก็จะกินนกเพนกวินและนกทะเล พฤติกรรม : ชอบนอนตามโขดหิน แนวหิน ชายหาดที่เป็นก้อนกรวดและชายหาดทราย วัยเจริญพันธุ์ : ฤดูผสมพันธุ์ช่วงกลางเดือนตุลาคม ถึงเดือนมกราคม ตัวเมียจะให้กำเนิดลูกปีละ 1 ตัว ตั้งท้องนานประมาณ1 ปี
หากนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมลูกแมวน้ำตัวน้อยๆ สามารถรับชมได้ ผ่านด้วยระบบแสดงผลจอทีวี ( CCTV ) และบริจาคค่าอาหารเพื่อเป็นการรับขวัญหรือเขียนคำอวยพรให้กับลูกแมวน้ำ บริเวณด้านล่างของส่วนจัดแสดงแมวน้ำ 
สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและประชาสัมพันธ์ 086-4594192 สวนสัตว์ขอนแก่น หรือจะเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Social Media www.facebook.com/สวนสัตว์ขอนแก่น และทางเว็บไซต์ของสวนสัตว์ขอนแก่น www.khonkaenzoo.com
