นครพนม-ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรีสกัดยึดรถกระบะพร้อมผู้ต้องหาคาริมโขงเตรียมส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน


วันที่ 5 เมษายน 64 บริเวณวัดนันทสาร หมู่ 3 บ้านนาโพธิ์ ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานปฏิบัติการของหมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 1(มว.คทร.1) กองร้อยเคลื่อนที่เร็วที่ 1 กองบังคับการควบคุมที่ 1กรมทหารราบที่ 3 (ร.3) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี(กกล.ฯ)อำนวยการโดย พลตรีบุญสิน พาดกลาง ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี พ.อ.วุทธิพงษ์ อรรคคำ รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 1(ร.3) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมกับ นรข. ตำรวจ ทหารพราน ตรวจคนเข้าเมืองนครพนม ฝ่ายปกครองอำเภอบ้านแพง ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รีโว สีเทา ทะเบียน 1 ฒส 4936 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน พร้อมผู้ต้องหา นายกลิ่นศักดิ์ชัย แพงคำอุ้ย อายุ 34 ปี ชาวบ้านน้อยลวงมอง ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ได้ที่บริวเณริมฝั่งโขงบ้านโพธิ์ไทร ตำบลไผ่ล้อม อำเภอบ้านแพง จ.นครพนม

สืบเนื่องจากทาง เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าจะมีการลักลอบนำรถยนต์ออกนอกราชอาณาจักร บริเวณหมู่บ้านโพธิ์ไทร ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันลงตรวจสอบพื้นที่ ที่ได้รับแจ้ง จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. จนท. ชุด ลว. ตรวจการ ด้วยกล้องไนท์วิชั่น พบเรือกีบเพลายาว จำนวน 2 ลำ ต่อขนาดกันเป็นแพติดเครื่องยนต์แล่นเข้ามาเทียบริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านโพธิ์ไทร ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม พร้อมด้วยกลุ่มบุคคล จำนวนประมาณ 4-6 คน อยู่ในพื้นที่ที่เกิดเหตุ ซึ่งห่างจากจุดที่ เจ้าหน้าที่อยู่ประมาณ 200 เมตร จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงรถวิ่งลงไปยังเรือ ที่จอดอยู่ จึงได้แสดงตัวเพื่อที่จะเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว เมื่อกลุ่มบุคคลนั้นเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้พากันวิ่ง หลบหนีโดยอาศัยความมืด และความชำนาญพื้นที่ได้การหลบหนี เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ 1 คน คือนายกลิ่นศักดิ์ชัย แพงคำอุ้ย อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะคันดังกล่าว เป็นชาวบ้านน้อยลวงมอง ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม สารภาพได้รับค่าจ้างขับรถลงแพ จากนายทุน ครั้งละ 1,000 บาท
จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเบื่องต้นพบรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้าแคป สีเทา จำนวน 1 คัน เจ้าหน้าที่ จึงได้ทำ การตรวจยึด ของกลาง พร้อมผู้ต้องหา มาที่ วัดนันทสาร หมู่ 3 บ้านนาโพธิ์ ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานปฏิบัติการของหมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 1(มว.คทร.1) กองร้อยเคลื่อนที่เร็วที่ 1 กองบังคับการควบคุมที่ 1กรมทหารราบที่ 3 (ร.3) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี(กกล.ฯ) เพื่อทำการตรวจสอบโดยละเอียด ผลการตรวจสอบพบว่าเป็น รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ตราอักษร TOYOTA รุ่น HILUX REVO สีเทา ทะเบียน 1 ฒส 4936 กรุงเทพมหานคร พร้อมแผ่นไม้กระดาน 2 แผ่น จึงได้ทำบันทึกการตรวจยึด และนำของกลาง ทั้งหมดส่ง พงส.สภ.บ้านแพง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
พ.อ.วุทธิพงษ์ อรรคคำ รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 1(ร.3) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ รถยนต์ ของกลุ่มขบวนการโจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติ นำมาส่งข้ามไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะมีการซื้อขายกันราคาคันละประมาณ 2 -3 แสนบาท นอกจากนี้จากการตรวจสอบเชิงลึก รวมถึงข้อมูลการจับกุมที่ผ่านมา รถยนต์ส่วนใหญ่ที่เตรียมส่งข้ามไปขายประเทศเพื่อนบ้าน จะเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า เพราะเป็นที่นิยมของตลาด ซื้อขายง่ายสำหรับที่มาจะมีทั้งมาจากการโจรกรรม รวมถึง รถยนต์ที่ค้างชำระค่างวด ในสัญญาเช่าซื้อ และหนีไฟแนนซ์ ก่อนที่จะมีการเข้าสู่กระบวนการจำนำในราคาถูก ไปจนถึงขบวนการหลอกดาวน์ราคาต่ำ และนำส่งไปขายประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะมีนายทุนในพื้นที่ตามแนวชายแดน ทำหน้าที่ติดต่อซื้อขาย กับขบวนการค้ารถยนต์ข้ามชาติ ที่ใช้ความชำนาญในการลักลอบขนส่งข้าม
โดยทาง ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมกับหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง ยังคง มีมาตรการเข้มต่อเนื่อง ในการสกัดกั้นจับกุม สิ่งผิดกฎหมาย แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง ในพื้นที่ตามแนวชาวแดน ติดกับแม่น้ำโขงตลอดแนวที่รับผิดชอบ ซึ่งในการตรวจยึดครั้งนี้ จะได้ตรวจสอบหาเจ้าของ เพื่อสอบสวนขยายผลติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าว/ภาพ ประทีป วชิระธัญญากุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดนครพนม

ในประเทศ

Related posts

404 Not Found
404
Sorry, the page you visited does not exist.
It may be that the access link is wrong or the file does not exist.