นครพนม-ผู้ว่าสั่งสอบท่าทราย เลี่ยงภาษี นับ 10 ล้าน จ่อถอนใบอนุญาต ขึ้นแบล็คลิส


ผู้ว่านครพนม เอาจริง สั่งสอบผู้ประกอบการท่าทราย บางรายฉวยโอกาสเลี่ยงจ่ายภาษีให้ท้องถิ่น ติดต่อหลายปี พบมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ตั้งคณะทำงานตรวจสอบ จับตากลุ่มเลี่ยงภาษี ทำรัฐเสียหาย ฉวยโอกาสลักลอบนำเข้าส่งออกสิ่งของผิดกฎหมาย แรงงานต่างด้าว ยาเสพติด พบสั่งเพิกถอนใบอนุญาตทันที ขึ้นแบล็คลิส ย้ำผู้ประกอบการอย่าเห็นแก่ได้ ต้องทำตามกฎหมาย

 เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2564 นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม เปิดเผยว่า เกี่ยวกับกรณีปัญหากิจการดูดทรายในพื้นที่ จ.นครพนม ยอมรับว่าปัจจุบันยังคงมีปัญหา มีผู้ประกอบการบางราย ที่ฉวยโอกาสขออนุญาตดูดทราย ทั้งนำเข้า ซึ่งเป็นส่วนที่ศุลกากรดูแลรับผิดชอบ ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา 86 วรรค 2 เกี่ยวกับการขออนุญาตนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ในส่วนของจังหวัดนครพนม จะดูแลเรื่องความมั่นคง รวมถึง ในมาตรา 9 ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการขออนุญาตให้ดูดทราย พ.ศ.2546 โดยเป็นการดูดทรายในราชอาณาจักร แต่จะต้องไม่เป็นพื้นที่มีเขื่อนป้องกันตลิ่ง ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องขออนุญาต จากทางคณะกรรมการระดับจังหวัดทำการตรวจสอบก่อนออกใบอนุญาต โดยมีอายุ ครั้งละ 1 ปี แต่ปัจจุบันยอมรับว่า จากการตรวจสอบของคณะกรรมการระดับจังหวัด มีผู้ประกอบการบางราย ฉวยโอกาสเลี่ยงจ่ายภาษีให้ท้องถิ่น คือ องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ติดต่อกันมาหลายปี มูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่ง อยู่ระหว่างการติดตามตรวจสอบแก้ไข ทั้งนี้ทางจังหวัดนครพนม เห็นชอบกับผู้ประกอบการในการทำกิจการดูดทราย เพราะมีทั้งผลดี และผลเสีย แยกเป็นผลดี คือ ทรายสะสมมากขึ้นทุกปี ทำให้เกาะสันดอนเกิดขึ้นเป็นพื้นที่กว้าง หากมีการดูดทรายจะเกิดประโยชน์ ลดปัญหาการเกิดสันดอนทรายกีดขวางทางน้ำ และส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจการค้า เกี่ยวกับโครงการก่อสร้าง ส่วนผลเสีย ต้องยอมรับว่า ยังมีผู้ประกอบการบางราย ฉวยโอกาสแฝงลักลอบกระทำผิดกฎหมาย ในการนำเข้า ส่งออกของผิดกฎหมาย ยาเสพติด แรงต่างด้าว ล่าสุดได้ตั้งคณะทำงานระดับจังหวัด ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ในการลงพื้นที่ตรวจสอบดูแล ป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย หากพบผู้ประกอบการบางรายกระทำผิดระเบียบขั้นตอน จะต้องดำเนินคดี ตามกฎหมายทันที เพราะผู้ประกอบการได้ประโยชน์มหาศาล แต่ละปี แต่กับมีการเลี่ยงภาษี เพราะทางจังหวัดไม่ได้มีการติดตามตรวจสอบ ว่ามีการจ่ายชำระภาษีทุกปีให้ท้องถิ่น จนเกิดปัญหายืดเยื้อมานาน ทั้งที่ได้ประโยชน์มหาศาล อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ จะต้องตรวจสอบ ทุกราย ซึ่งมีผู้ประกอบการ ยื่นขออนุญาต ประมาณกว่า 20 ราย ในพื้นที่ จ.
นครพนม หากใครมีการเลี่ยงจ่ายภาษา จะมีการเพิกถอนใบอนุญาต และขึ้นบัญชีแบล็คลิส ไม่มีการต่อใบอนุญาต รวมถึงเฝ้าตรวจสอบติดตามผู้ประกอบการบางรายที่ฉวยโอกาสหาผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมาย จะต้องดำเนินคดี และเพิกถอนใบอนุญาตทันทีหากตรวจสอบพบกระทำผิด ซึ่งที่ผ่านมายอมรับมีการปล่อยปะละเลยมานาน แต่ทางจังหวัดยินดีอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ประกอบการที่ดำเนินการตามกฎหมาย