เมื่อเวลา14.00นวันที่ 24 มีนาคม 2564 ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.สุรชิต ฤทธิลี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร และ พ.ต.ต.ธนนท์ ศรีกงพาน สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจสืบสวน ร่วมกันจับกุม นายกีรติ หรืออาร์ทขาเหล็ก เพ็ญทองดี หรืออาร์ทขาเหล็ก อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 317/76 ม.2 ต.บ้านเลื่อม อ.เมืองอุดรธานี ในข้อหา”ลักทรัพย์ในเคหะสถาน” พร้อมของกลางและหลักฐาน ภาพวงจรปิดขณะก่อเหตุ เงินสด 9,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ก่อเหตุตามสถานที่ต่างๆรวม 3 ครั้ง แม้แต่ในวัดวาอารามก็ไม่ละเว้น
ก่อเหตุครั้งแรก เมื่อเวลา 20.21 น. วันที่ 7 มีนาคม 2564 ก่อเหตุย่องลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ในร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ซ.วิจารณรงค์ ต.หมากแข้ง ทน.อุดรธานี ขณะนายอิศเรศ มุณีเทวา อายุ 50 ปี เจ้าของร้านนั่งหลับและวางโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะทำงาน ครั้งที่สองเมื่อเวลา 22.34 น.วันที่ 14 มีนาคม 2564 ก่อเหตุย่องเข้าไปก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือ จำนวน 7 เครื่อง และเงินเหรียญในกล่องพลาสติกสีแดง ประมาณ 200 บาท ที่เก็บไว้ในลิ้นชักหลังเคาน์เตอร์ร้านกาแฟสด เลขที่ 56/27 ถ.อุดรดุษฎี ต.หมากแข้ง ทน.อุดรธานี ขณะนางสาวบุญยานุช เดชะวงศ์ อายุ 38 ปี เจ้าของร้านออกไปกินข้าวกับครอบครัว แต่ลืมปิดล็อกประตูหน้าร้านเอาไว้
ครั้งที่สามเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 22 มีนาคม 2564 ก่อเหตุงัดหน้าต่างสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุติ) ภายในวัดโพธิสมภรณ์ ต.หมากแข้ง ทน.อุดรธานี เข้าไปขโมยเงินสด 9,000 บาท ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของ พระอาจารย์จันทร์หอม ข่างปรุง อายุ 44 ปี พระลูกวัดฯ และเป็นผู้ดูแลสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดฯ ซึ่งกล้องวงจรปิดทั้งสามแห่งสามารถบันทึกภาพคนร้าย ขณะก่อเหตุและหลบหนีได้อย่างชัดเจน กระทั่งตำรวจสืบสวนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหา ขณะเดินขากะเผลกอยู่ริมถนนเบญจางค์ ต.หมากแข้ง และตรงตามตำหนิรูปพรรณที่ตำรวจกำลังติดตามตัว คาดว่ากำลังเดินหาสถานที่ก่อเหตุลักทรัพย์ ควบคุมตัวมาสอบสวน และนำตรวจยึดของกลางบางส่วนที่ร้านรับจำนำ
นายกีรติ หรืออาร์ทขาเหล็ก สารภาพว่า ตนเคยถูกจับกุม ในคดีลักทรัพย์ เมื่อพ้นโทษออกมาได้ เพียง5 วัน ก็ได้ขี่รถจยย.ชนกับรถจยย.บิ๊กไบค์ ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงชลประทาน เขตเทศบาลนครอุดรธานี ทำให้ขาด้านขวากระดูกแตก ต้องดามเหล็กเอาไว้ที่ขา ตั้งแต่นั้นมานอนรักษา อยู่ประมาณ2 ปีกว่า แล้วพอเดินได้ก็ออกมาตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ หาเงินไปเล่นการพนันออนไลน์ และซื้อยาบ้ามาเสพ โดยโทรศัพท์มือถือที่ขโมยมา ได้ไปโกหกเจ้าของร้านค้าว่าจะนำเงินไปรักษาแม่ที่กำลังป่วยจากอุบัติเหตุไหปลาร้าหัก จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวนายกีรติ หรืออาร์ทขาเหล็ก ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
นางสาวบุญยานุช เดชะวงศ์ ผู้เสียหายเจ้าของร้านกาแฟสด เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็ว และนำทรัพย์สินของกลางมาคืนให้กับตนจนครบ ซึ่งในคืนที่เกิดเหตุตนลืมประตูหน้าร้าน ก่อนพาลูกออกไปกินข้าวนอกบ้าน และกลับมาไม่ได้ตรวจสอบ ก่อนเข้านอนตามปกติ พอตื่นเช้าขึ้นมาเปิดร้านเห็นกล่องใส่เงินเหรียญวางอยู่ที่พื้น จึงรู้ว่ามีคนร้ายเข้ามาในร้าน จึงเปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบคนร้ายเข้ามาก่อเหตุจริง
พระอาจารย์จันทร์หอม ข่างปรุง พระผู้เสียหายเปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายพร้อมของกลางเงินสดมาคืนจนครบจำนวน ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 18 .00 น. วันที่ 22 มีนาคม 2564 อาตมาเดินไปทำธุระที่กุฏิ ประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ไม่ได้ล็อกปิดล็อกหน้าต่างเอาไว้กลับมาปรากฏว่าเงินใช้จ่ายในสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดฯ จำนวน 9 พันบาท หายไป จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณข้างอุโบสถ เห็นคนร้ายเดินเข้ามาก่อเหตุและเดินออกไปหลังก่อเหตุเสร็จ และพอตำรวจเห็นตำหนิรูปพรรณคนร้าย จึงทราบว่าเป็นคนร้ายที่ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ในเขตเทศบาลนครอุดรธานีมาแล้ว 2 ครั้ง
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนคนร้ายให้การรับสารภาพว่า เหตุจูงใจในการก่อเหตุเพราะติดการพนันออนไลน์ และติดเสพยาบ้า และไม่มีงานทำ หลังจากพ้นโทษคดีลักทรัพย์หลายครั้งตั้งแต่เป็นเยาวชน แล้วหวนกลับมาก่อเหตุลักทรัพย์อีกครั้ง แม้แต่ในวัดก็เว้น สร้างความเดือดร้อนในแก่ประชาชน และพระสงฆ์ ตำรวจได้หลักฐานภาพกล้องวงจรปิด ทำให้รู้ตัวว่าคนร้ายคือนายกีรติ หรืออาร์ทขาเหล็ก ถือว่าเอาคนไม่ดีออกจากสังคมไป