เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น วันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา นายภัคพงษ์ ชาวกรุงเทพมหานคร เป็นพนักงานของ ร้านเกี่ยวซ่า ที่ตลาดริมมูล เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมือง จ.อุบลราชธานี อ้างว่าได้ขับรถยนต์กระบะ อีซูสุ สีบรอนซ์ ทะเบียน ลษ-2543 กรุงเทพมหานคร จากตลาดริมมูล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เพื่อจะเดินทางกลับที่พัก ที่หมู่บ้าน ดิไอคอน มาถึงที่เกิดเหตุ หน้าสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค ถนนชลประทาน-ท่าบ่อ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลฯ มีชาย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ สวมหมวกกันน็อค มาปาดหน้ารถยนต์ทำให้เกิดการตกใจ จึงลงจากรถเพื่อไปดู จากนั้นชายคนซ้อนได้เดินเข้ามาหาแล้วชักมีด มาข่มขู่ ว่าให้ส่งกระเป๋าที่สะพายอยู่มา ตนจึงส่งกระเป๋าให้ มีทรัพย์สินที่ได้ไป เงินสดประมาณ 7,000 บาท ,บัตร ATM ธนาคารกสิกรไทย,บัตรประชาชนและใบขับขี่ จากนั้นผู้ก่อได้หลบหนีมุ่งหน้าไปทางสวนสาธารณะ ห้วยม่วง
ต่อมา พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก.สภ.เมืองอุบลฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.นพดล เปลี่ยนรูป รอง ผกก.สส.สภ.เมือง นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมือง ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวโดยตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในช่วงวันเวลาที่เกิดเหตุ พบว่ารถยนต์กระบะ อีซูสุ สีบรอนซ์ ทะเบียน ลษ-2543 กทม. ของผู้แจ้งไม่มีสิ่งผิดปกติในการถูกจี้ตามที่แจ้งไว้ ล่าสุด พ.ต.ท.นพดล เปลี่ยนรูป รอง ผกก.สส.สภ.เมือง ได้เชิญตัวผู้เสียหายมาโรงพัก เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในการติดตามคนร้าย โดยได้สอบถามข้อมูล ถามไปถามมาจนนายภัคพงษ์ เริ่มมีอาการมีพิรุธ พูดวกไปวนมา จนในที่สุดนายภัคพงษ์ ได้ยอมรับสารภาพว่าเหตุการณ์ที่ถูกโจรจี้ชิงทรัพย์ที่แจ้งความไว้ดังกล่าว ไม่ได้เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด ตัวเองเป็นคนกุเรื่องขึ้นมาทั้งหมด เพื่อที่จะโกหก เนื่องจากตนได้นำเงินของทางร้านเกี่ยวซ่า ไปเล่นการพนันออนไลน์และเสียจนหมด จึงได้คิดกุเรื่องโดนจี้ขึ้นมา เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตาม มาตรา 137 ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป