เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ชาญชัย อินนรา ผกก.สส.ภ.จ.อุบลราชธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดร่วมกับชุดสืบสวน สภ.ห้วยข่า อ.บุณฑริก เข้าจับกุม นายขอด โสนะจิตร อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ 1บ้านห้วยข่า ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนลูกซองยาว 1กระบอกและ อาวุธปืน(แก๊ปยาว)ไทยประดิษฐ์ชนิดประจุปาก 1กระบอก กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 32 จำนวน 18 นัด โดยกล่าวหาว่าฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธปืนและใช้กำลังประทุษร้ายมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา นายขอด โสนะจิตร ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยาว ยิงนายประเทือง สามิโส อายุ 48 ปี ที่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 1บ้านห้วยข่า ตำบลห้วยข่า อ.บุณฑริกจังหวัดอุบลราชธานี สภาพศพ นุ่งผ้าเช็ดตัวไม่สวมเสื้อ นอนตะแคงด้านซ้าย แขนซ้ายปิดหน้า มีเลือดไหลออกจากตัวผู้ตายจำนวนมาก และเลือดยังไหลนองพื้นบ้านข้างศพ มีที่นอนที่ผู้ตายนอนทับอยู่ นอนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากการตรวจชันสูตรพลิกศพพบรอยกระสุนปืนที่บริเวณสะโพกซ้ายและบริเวณท่อนแขนซ้ายด้านล่างในที่เกิดเหตุ หลังก่อเหตุนายขอด ได้กลับไปอยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ 1 บ้านห้วยข่า ตำบลห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าจับกุมพร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองยาวที่ใช้ก่อเหตุ
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายขอด โสนะจิตร ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้จริงโดยใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงนายประเทือง สามิโส จำนวน 1 นัดจนถึงแก่ความตายจริง เนื่องจากสุดทนที่ผู้ตายซึ่งเป็นลูกเขยได้หยามเกียรติแอบมีชู้กับภรรยาตนซึ่งเป็นแม่ยายตัวเอง นอกจากนี้ผู้ตายยังยุแยงทำให้แตกแยกภายในครอบครัวจนทำให้ภรรยาของตนไปอยู่ที่อื่นจึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุดังกล่าว
