นครพนม-มท.3 ลงพื้นที่นครพนม ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด

มท.3 ลงพื้นที่นครพนม ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด เน้นทุกโครงการต้องคุ้มค่า สอดรับความต้องการประชาชน บนพื้นฐานการบูรณางาน เพื่อสร้างชุมชนยั่งยืน
วันที่ 5 มีนาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) ลงพื้นที่ร่วมประชุม ติดตามผลการดำเนินงาน และตรวจความพร้อมของแผนงานโครงการที่คณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด จังหวัดนครพนมได้มีการเสนอเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ประจำปี 2565 จากกรมโยธาธิการและผังเมือง ในการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำสงคราม-ลำน้ำยาม บ้านปากยาม หมู่ที่ 4 ตำบลสามผง อำเภอศรีสงคราม ด้วยงบประมาณก่อสร้าง 105 ล้านบาท รวมระยะทาง 1,000 เมตร และโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมห้วยลำขิง บ้านโพธิ์ชัย หมู่ที่ 2 ตำบลไผ่ล้อม อำเภอบ้านแพง ซึ่งจะก่อสร้างด้วยความยาว 500 เมตรและใช้วงเงินก่อสร้างทั้งสิ้น 50 ล้านบาท เพื่อป้องกันการกัดเซาะและพังทลายของหน้าดินในพื้นที่ทั้ง 2 แห่ง และเป็นการเสริมสร้างความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) เปิดเผยว่า ในการจัดทำงบประมาณโครงการของหน่วยงานของรัฐนั้น ความจริงจะต้องมีการดำเนินงานล่วงหน้าอย่างน้อยก็ 1 ปี ซึ่งในส่วนของการก่อสร้างของกรมโยธาธิการและผังเมือง ทางโยธาธิการจังหวัดก็ได้มีการจัดทำแผนเสนอเพื่อกันงบประมาณไว้ดำเนินการเช่นเดียวกัน โดยหลาย ๆ โครงการที่มาตรวจที่จังหวัดนครพนมในครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการที่ได้รับงบประมาณแล้ว ในส่วนนี้จะเป็นการมาติดตามในเรื่องของการก่อสร้างว่าถูกต้องเป็นไปตามห้วงเวลาที่ใช้จ่ายงบประมาณหรือไม่ ส่วนที่ 2 จะเป็นโครงการที่จะทำในปี 2565 ซึ่งกรมจะต้องมีแผนงานโครงการรองรับที่เป็นความต้องการของพี่น้องประชาชนจริง ๆ โดยโครงการที่เสนอไปต้องมีความพร้อม ทั้งในเรื่องของการออกแบบ การทำแผนประมาณการ ที่อยู่ในกรอบเวลาที่รัฐบาลกำหนดเพื่อขอรับงบประมาณ ซึ่งตามความเป็นจริงแผนที่จังหวัดเสนอขึ้นมานั้นดีอยู่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องมองคือความต้องการของประชาชนยังมีอีกหลายด้าน ดังนั้นวันนี้ก็คุยกับคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการเป็นประธาน ว่าวิธีการทำงบประมาณจะต้องเตรียมความพร้อมด้านใดบ้าง และโครงการทั้งหมดต้องสอดรับกับการพัฒนาของจังหวัดที่จะมายกระดับความเป็นอยู่และสร้างมูลค่าเพิ่ม มาสร้างรายได้ของประชาชนให้สูงขึ้นบนพื้นฐานความต้องการของประชาชน อย่างห้วยลำขิงแห่งนี้ก็เป็นโครงการอันนึงที่จัดอยู่ในปี 2565 ในการทำเขื่อนป้องกันตลิ่ง ป้องกันการพังทลายของหน้าดิน เพราะถ้าไม่มีเขื่อนเวลาที่น้ำมาแรง ก็จะทำให้หน้าดินพังทลายลง ซึ่งวันนี้ก็ได้ลงมาดูว่าเป้าหมายโครงการที่ตั้งไว้ 50 ล้านบาทมีความเหมาะสมขนาดไหน และมีโครงการอื่น ๆ มาสอดรับกันเพื่อแก้ไขปัญหาอีกหรือไม่ เพราะเมื่อเรามีการทำเขื่อน ก็จะทำให้เกิดน้ำ เราจะทำยังไงให้น้ำตรงนี้เป็นประโยชน์ในการทำการเกษตรสำหรับพี่น้องเกษตรกร และมีโครงการอื่นที่มาสอดรับในเรื่องของการท่องเที่ยว เรื่องการขนส่ง หรือการให้บริการเพิ่มเติมมากน้อยเพียงใด ซึ่งก็ต้องอาศัยจังหวัดหรือหน่วยงานต่าง ๆ มาบูรณาการเพิ่มเติมร่วมกันในส่วนนี้ และตนเองที่ได้รับมอบหมายจากท่านนายกรัฐมนตรีให้ลงมาขับเคลื่อนการทำงานของคณะกรรมการไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด จึงได้ลงมาดูว่าจะเอาส่วนตรงนี้ไปบูรณาการกับงานใดได้บ้าง เพื่อให้การบูรณาการเหล่านั้นมีความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน
ข่าว/ภาพ ประทีป วชิระธัญญากุล นครพนม รายงาน

ในประเทศ

Related posts

404 Not Found
404
Sorry, the page you visited does not exist.
It may be that the access link is wrong or the file does not exist.