นครพนม-น้องขวัญ นายก อบจ.นครพนม ป้ายแดง อายุน้อยสุดในประเทศ เปิดสภาแถลงนโยบาย ครั้งแรก

น้องขวัญ นายก อบจ.นครพนม ป้ายแดง อายุน้อยสุดในประเทศ ลูกสาวครูแก้ว เปิดสภาแถลงนโยบาย ครั้งแรก ก่อนบริหารงาน ประกาศ 4 ปีจากนี้ไป ขอสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ เน้นพัฒนานครพนม เป็นเมืองสร้างอาชีพเกษตร ควบคู่พัฒนาการศึกษา กับการพัฒนาท่องเที่ยว เชิงประเพณีวัฒนธรรม เน้นแก้ปัญหารวยกระจุกจนกระจาย ลดปัญหาบริโภคนิยม มุ่งดูแลประชาชนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา มั่นใจเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ บริหารงานต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้

ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม นายทันใจ ณ รังสี ประธานสภา อบจ.นครพนม คนใหม่ หลังได้รับการลงมติโหวตจาก สมาชิกสภาอบจ.นครพนม ทั้ง 30 เขต รวม 30 คน ในการประชุมครั้งที่ผ่านมาเพื่อรับตำแหน่งประธานสภา อบจ.นครพนม เป็นประธานเปิดการประชุม สมัยสามัญ สมัยที่ 1 ประจำปี 2564 พร้อมแถลงนโยบายของ นายก อบจ.นครพนม ครั้งแรก ก่อนเข้ารับตำแหน่งบริหารงานตามระเบียบกฎหมาย หลังมีการเลือกตั้ง นายก อบจ.นครพนม เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา โดย มี นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ อายุ 36 ปี หรือน้องขวัญ บุตรสาวคนโต นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.เขต 1 พรรคภูมิใจไทย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ชนะการเลือกตั้ง นายก อบจ. รับตำแหน่งนายก อบจ.นครพนม คนใหม่ และยังสร้างประวัติศาสตร์ทางการเมืองท้องถิ่น เป็นนายก อบจ.ที่อายุน้อยที่สุดในประเทศ นอกจากนี้ยังได้ มีการ แต่งตั้ง อดีต ส.ส.คนดัง ถึง 2 คน มานั่งตำแหน่งรองนายก อบจ.นครพนม คือ นายชูกัน กุลวงษา อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และ นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน มาร่วมบริหารงานในครั้งนี้

สำหรับการเปิดประชุมแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการของ สภา อบจ.นครพนม ครั้งนี้ได้มี นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม ดร.ไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม เขต 3 พรรคเพื่อไทย นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.เขต 1 พรรคภูมิใจไทย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง เข้าร่วม รับฟัง พร้อมร่วมแสดงความยินดีกับนายก อบจ.นครพนม คนใหม่ป้ายแดง

นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ อายุ 36 ปี หรือน้องขวัญ นายก อบจ.นครพนม เปิดเผยในการแถลงนโยบายว่า ต้องขอกราบขอบกระคุณ พี่น้องประชาชนชาว จ.นครพนม ทั้ง 12 อำเภอ ที่ให้ความไว้วางใจ รวมถึงให้โอกาสเข้ามาบริหารงาน ร่วมกับ สมาชิก อบจ.นครพนม ทั้ง 30 เขต ถือเป็นครั้งแรกในการรับตำแหน่งทางการเมือง และขอยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด พร้อมให้คำมั่นสัญญาจากนี้ไป 4 ปี ข้างหน้า จ.นครพนม จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ ทุกด้าน โดยตนได้ทำแผนพัฒนานโยบายของ อบจ.นครพนม ไว้ 3 หลักสำคัญ ประกอบด้วย นโยบายสำคัญเร่งด่วนด้านแรก เป็นเรื่องของการดูแลพัฒนาอาชีพ กับการดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ จะต้องมีการส่งเสริมอาชีพ รวมถึง สร้างสุขภาพให้ประชาชนทั่วไป ตลอดจน ผู้พิการ ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ ผู้ตกงาน รวมถึงผู้ประกอบการอาชีพอิสระจะต้องได้รับการส่งเสริมทั่วถึง นอกจากนี้จะต้องมีการจัดตั้ง คลินิกแก้ปัญหาหนี้สินประชาชน รวมถึงการ พัฒนาด้านการดูแลสุขภาพ ของ รพ.สต. และจะต้องมีการผลักดันก่อตั้ง โรงพยาบาล อบจ.นครพนม ให้ดูแลสุขภาพทั่วถึง ต่อจากนี้ไป จ.นครพนม จะต้องหมดปัญหารวยกระจุก จนกระจาย ประชาชน จะต้องเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และลดปัญหาบริโภควัตถุนิยม หันมาพัฒนาคุณภาพชีวิตเป็นหลัก

นายก ขวัญ กล่าวอีกว่า ประการที่ 2 นโยบายเกี่ยวกับ การกีฬา ควบคู่กับการท่องเที่ยว จากพื้นฐานนครพนม เป็นเมืองแห่งความสุข มีจุดแข็ง เรื่องการท่องเที่ยว เมืองสามที่สุด คือ ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด พระธาตุพนม รวมถึงพระธาตุประจำวันเกิด 8 พระธาตุในพื้นที่ 12 อำเภอ สวยที่สุด สะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 3 นครพนม – คำม่วน และงามที่สุด สภาพทิวทัศน์สองฝั่งโขง รวมถึงพญาศรีสัตตนาคราชริมฝั่งโขง ที่เป็นจุดดึงดูดประชาชนนักท่องเที่ยว จะต้องได้รับการต่อยอดการพัฒนา มุ่งเน้นพัฒนาให้มี แหล่งท่องเที่ยว 1 อำเภอ 1 แหล่งท่องเที่ยว ให้ประชาชน ที่เข้ามาในพื้นที่ได้ เที่ยวชมความสวยงาม กราบไหว้ขอพรสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญทุกอำเภอ รวมถึงการจัดสร้างหอคอยชมเมือง และแหล่งจำหน่ายสินค้าพื้นบ้าน ทั้งการเกษตร และผลิตภัณฑ์สินค้าโอท็อป นอกจากนี้จะสร้างความร่วมมือ กับภาครัฐ เอกชน ประชาชน ให้หันมาสนใจด้านการกีฬา ส่งเสริมกระตุ้นการจัดการแข่งขันกีฬา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ทุกด้าน ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก ร้านค้าร้านอาหาร ในพื้นที่ ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ไปจนถึงการสร้างโอกาสแก่ลูกหลานเยาวชนด้านการกีฬา ให้ก้าวสู่นักกีฬาอาชีพในอนาคต และมีแผนการจัดตั้งกลุ่มบริการการท่องเที่ยวครบวงจรทั้ง 12 อำเภอ ในการดูแลนักท่องเที่ยว

นายก อบจ.นครพนม กล่าวต่ออีกว่า ประการที่ 3 จะมีการส่งเสริมพัฒนาด้านการศึกษา ครอบคลุมทุกด้าน มุ่งเน้นให้ลูกหลานเยาวชน ที่มีความสามารถด้านการศึกษา ได้รับทุนการศึกษาที่ดี นำไปสู่อนาคต มีตำแหน่งหน้าที่การงาน รวมถึงเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษด้านการศึกษา ด้านอาชีพ จะต้องได้รับการส่งเสริมสนับสนุน ให้ได้รับการศึกษาตรงตามหลักสูตร และมีงานทำ แต่จะต้องมีข้อตกลงให้กลับมาพัฒนาบ้านเกิดนครพนม เป็นหลัก นอกจากนี้จะมุ่งเน้นส่งเสริมให้เกิดโรงเรียนต้นแบบ ด้านการศึกษาประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น ให้ลูกหลานเยาวชน ได้ศึกษาครบวงจร และมีอาชีพมั่งคง ควบคู่กับการพัฒนาจังหวัด ให้เป็นเมือง การศึกษา ควบคู่การพัฒนาการกีฬา การท่องเที่ยว ในส่วนของสาธารณูปโภค จะเน้นการพัฒนาแบบทั่วถึง โดยจะต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่มุ่งเน้นเรื่องของการพัฒนาด้านวัตถุ แต่จะต้องเป็นความต้องการของประชาชนที่จำเป็นเร่งด่วน ทั้งการก่อสร้างถนน เส้นทางคมนาคม ให้ได้รับความสะดวกสบาย การขยายเขตไฟฟ้าสู่หมู่บ้าน รวมถึงพื้นที่การเกษตร ไปจนถึงการส่งเสริมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร จะต้องทั่วถึงทั้ง 2 อำเภอ อย่างไรก็ตามในการพัฒนาจะเน้น การมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายการเมือง ภาครัฐเอกชน ประชาชน และจะต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้


ประทีป วชิระธัญญากุล นครพนม รายงาน