จำนวนคนดู 305
ชาวบ้านขอนแก่นบุกศาลากลางจังหวัด หอบหลักฐานการทุจริตเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านฟ้องผู้ว่าฯ หลังผู้สมัครที่ชนะเลือกตั้งย้ายรายชื่อชาวบ้านนอกพื้นที่เข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านของกลุ่มตนเอง บางบ้านมีสภาพเป็นกระท่อมไม่มีผู้อยู่อาศัย
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 นางพัชรา วีระวัฒน์ อายุ 57 ปี พร้อมด้วยชาวบ้านมิตรภาพ หมู่ 10 ต.ม่วงหวานอ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น กว่า 20 คน นำเอกสารหลักฐานการทุจริตเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน เข้ายื่นถึงนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้ทางจังหวัดตรวจสอบการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านมิตรภาพ ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และขอให้มีคำสั่งให้ผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะ
นางพัชรา ตัวแทนชาวบ้านที่เดินทางมาร้องเรียน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา ผู้ใหญ่บ้านคนเดิมได้ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเตรียมจะลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาลฯ ทำให้ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านว่างลง และจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 30 วัน ต่อมาทางอำเภอน้ำพองจึงได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านใหม่ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 โดยมีผู้ลงสมัครชิงตำแหน่ง 2 คน คือ นายปริญญา ชาสิงห์แก้ว ผู้สมัครเบอร์ 1 และ นางสาวพรทิพย์ประพฤตินอก ผู้สมัครเบอร์ 2 ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้ใหญ่บ้านคนเดิมที่ลาออกไป โดยก่อนวันเลือกตั้ง ในหมู่บ้านได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งพบว่า ภายในหมู่บ้านมีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งได้ จำนวน186 คน จากจำนวนหลังคาเรือนที่มีบ้านเลขที่ จำนวน 33 หลังคาเรือน และเมื่อตรวจสอบรายชื่อแต่ละหลังคาเรือนกลับพบว่า มีรายชื่อคนนอกพื้นที่ย้ายเข้ามาอยู่ในทะเบียนของกลุ่มผู้สมัครเบอร์ 2 เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อนที่ผู้ใหญ่บ้านคนเก่าจะลาออก จำนวน 67 คน กระจายไปอยู่ในแต่ละหลังคาเรือน รวม 15 หลังคา ทางคณะกรรมกทรตรวจสอบฯ จึงได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังอำเภออำน้ำพอง เพื่อตรวจสอบ และทางอำเภอได้สั่งการให้เทศบาลตำบลม่วงหวานลงพื้นที่มาตรวจสอบตามข้อร้องเรียน ซึ่งพบว่า มีการย้ายรายชื่อเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านจริง จึงได้เลื่อนการเลือกตั้งมาเป็นวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และการเลือกตั้งก็เสร็จสิ้นไปแล้ว โดยผู้ที่ชนะการเลือกตั้งคือ นางสาวพรทิพย์ประพฤตินอก ผู้สมัครเบอร์ 2 ลูกสาวของผู้ใหญ่บ้านคนเก่าที่ลาออกไป โดยได้คะแนนไป 90 คะแนน ส่วนนายปริญญาชาสิงห์แก้ว ผู้สมัครเบอร์ 1 ได้ไป 72 คะแนน ห่างกัน 18 คะแนน ซึ่งหากมองตามกฎกติกาการเลือกตั้ง ก็เข้าใจว่าทำถูกต้องตามระเบียบ แต่ทางกลุ่มตนเองก็มองว่า การกระทำที่เกิดขึ้นเป็นการทุจริตและไม่ถูกต้อง เพราะหากให้การเลือกตั้งนี้ผ่านไป ก็จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานให้กับการเลือกตั้งในพื้นที่อื่นๆ จึงขอให้ทางจังหวัดเร่งตรวจสอบและให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่อย่างโปร่งใส