เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 5 ก.พ.2564 ณ ตำรวจภูธรจังหวัดเลย อ.เมืองเลย จ.เลย พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ ผบก.ภ.จว.เลย พร้อมด้วย พ.ต.อ.จักรภพ ท้าวฤทธิ์ และ พ.ต.อ.ณัฐกฤต คำวิเศษชัย รอง ผบก.ภ.จว.เลย พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองเลย ร่วมแถลงข่าวผลการระดมปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านแหล่งแพร่ระบาดของยาเสพติดตามแผน “ยุทธการพิทักษ์ไทย” ยึดทรัพย์สินตัดวงจรยาเสพติด และแผน” ยุทธการนาคาพิทักษ์ไทเลย” ของตำรวจภูธรภาค 4 
พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ ผบก.ภ.จว.เลย เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการตามนโยบายการประกาศสงครามกับยาเสพติดของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและนโยบายในการปราบปรามยาเสพติดของผู้บัญชาการตำรวจภาค 4 การประกาศสงครามกับยาเสพติดตามยุทธการนาคาพิทักษ์ไทย โดยกำหนดให้มีการระดมปิดล้อม และตรวจค้นเป้าหมายหมู่บ้าน ชุมชน แหล่งแพร่ระบาดยาเสพติด เพื่อตัดวงจร ทำลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติดและผู้เกี่ยวข้อง โดยมุ่งเน้นที่การเข้าจู่โจมตรวจค้น จับกุมและยึดทรัพย์สิน มีเป้าหมายที่เข้าทำการในพื้นที่รับผิดชอบทุกสถานีตำรวจ มีผลการตรวจค้นปิดล้อมพื้นที่ 47 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหาได้ 48 คน ของกลางยาบ้า 171 เม็ด ยาไอซ์ 2.29 กรัม กัญชาแห้ง 124.19 กรัม อาวุธปืน 7 กระบอก ตรวจอายัดอายัดทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ .มาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2534 จำนวน 3 รายการ มูลค่าประมาณ 8,100,000 บาท รถยนต์ 2 คัน มูลค่าประมาณ 2,000,000 บาท ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 2 แปลง มูลค่าประมาร 2,500,000 บาท บ้านพร้อมที่ดิน 2 หลัง มูลค่าประมาณ 3,600,000 บาท ทรัพย์ที่ยึดจะได้รวบรวมทำบัญชีส่งไปยังเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ผบก.ภ.จว.เลย เปิดเผยว่า สำหรับ จ.เลย ที่เป็นเมืองชายแดนอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านพรมแดนแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหืองยาวเกือบ 200 กม. ก็มีมาตรการเข้มงวดกวดขันเป็นพิเศษโดยบูรณาการ สนธิอัตรากำลังจากหลายภาคส่วนเข้าปฏิบัติการเชิงรุกทั้งชายแดนและเขตเมือง โดยเฉพาะผู้เที่จะลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย แรงงานต่างด้าว แก๊งค์ค้ายาเสพติด รวมทั้งอยู่ใน ช่วงการระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ช่วงการ อีกด้วย สำหรับการที่มีผู้ลงเฟรสบุ๊ค กรณี จนท.ตำรวจไปถ่ายภาพขณะที่กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดทานอาหาร ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย นั้น ตนรับว่าคนถ่ายภาพเป็น จนท.ตำรวจจริง และเป็นการปฏิบัติของตนที่สั่งการให้ จนท.ทุกสถานีตำรวจทุกโรงพักในจังหวัดเลย ให้ตรวจสอบการเคลื่อนไหวเพื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคลโดยเฉพาะชุดสืบสวน ซึ่งเขาก็แสดงตัวว่าเป็นตำรวจ ไม่ได้โกหกอะไร และก็มารายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น กรณีดังกล่าวในเฟรสนั้น เป็นเวลา 2ทุ่มแล้วและบุคคลเหล่านั้นเคลื่อนย้ายมาจาก อ.วังสะพุง เข้เมาในเขตตัวเมืองเลย และตำรวจก็ทำตามหน้าที่และตามกฎหมายทุกประการ เพื่อความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยของประชาชนทุกคน ไม่เป็นการคุกคามประชาชนแต่อย่างใด
ดำรงค์ รักษ์จรรยาวงศ์/ จ.เลย /
