เจ้าหน้าที่ป่าไม้มุกดาหารเตรียมนำหลักฐานเข้าแจ้งความ สภ.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร วันนี้ช่วงบ่ายโมงขณะที่ยูทูบเบอร์และลุงพลป้าแต๋นยังทำกิจกรรมตามปกติ
04 02 64 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่บ้านลุงพลและหมู่บ้านยูทูบเบอร์เช้านี้ยังคงมีบรรดาเหล่ายูทูบเบอร์ออกมาทำกิจกรรมตามปกติ ทั้งบริเวณหน้าบ้านและบริเวณส่วนยางพาราที่ถูกตั้งขึ้นมาเป็นที่พักของยูทูบเบอร์ โดยบางส่วนได้มีการไลน์สดกิจกรรมของตัวเองตอนเช้าของกลุ่มยูทูบเบอร์เอง โดยวันนี้ลุงพลได้ออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน พร้อมกับป้าแต๋นพร้อมกับไลฟ์สดทักทายเอฟชีเช่นเดิม และไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพและงดสัมภาษณ์
จากการเปิดเผยของ แหล่งข่าวจากชุดรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดมุกดาหาร วันนี้ ( 4 ก.พ.64) ช่วงบ่ายโมง เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้จะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร เพื่อดำเนินคดี นายไชย์พลกับพวก โดยมีข้อกล่าวหาที่ตั้งให้กับทุกคนที่อยู่ในคลิปเบื้องต้นมีดังนี้ กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ฐาน ร่วมกันทำไม้ หรือทำด้วยประการใดๆแก่ไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตร 69 ฐาน มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตรา ค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขาย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐาน ทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ส่วนบุคคลที่จะถูกดำเนินคดีเพิ่มมีจำนวนกี่คนนั้น อยู่ที่พฤติการณ์ว่าผู้ใดเข้าข่ายฐานทำไม้บ้าง ตามคำจำกัดความตามตัวบท ซึ่งมีความผิดชัดเจน ขณะที่ความผิดฐานทำไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ มีอัตราโทษทั้งจำทั้งปรับ และต้องร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายทางสิ่งแวดล้อมบางประการ กรณีทำไม้และทำลายป่าสงวนทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
ขณะเดียวกันนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มเดินทางมาบ้านกกกอก เพื่อขึ้นภูเขาเหล็กไฟ ลุงพล ยิ้มออก เจอทนายตั้มเข้าพื้นที่บ้านกกกอกได้ ขอคุยปรึกษาคดีเป็นการส่วนตัว ด้านทนายตั้ม เข้าพื้นที่คัดกรองตามระเบียบพร้อมเผยมีภารกิจลับ และข้อมูลบางอย่างในคดี แต่ยังไม่ตอบรับทำคดีให้ลุงพล ขอขึ้นเขาพรุ่งนี้ก่อน
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ลงพื้นที่บ้านกกกอก อ.ดงหลวงจ.มุกดาหารแล้ว หลังจากทางจังหวัดมุกดาหารประกาศคลายล็อคมาตรการโควิด-19 โดยทันทีที่ลงรถ ทนายตั้มก็มายังจุดคัดกรองของหมู่บ้าน วัดไข้ ลงทะเบียน พร้อมกับทีมงาน 3 คน
ด้านทนายตั้ม เปิดเผยว่า ดีใจได้เข้าพื้นที่บ้านกกกอกได้แล้ว และสอบถามข้อมูลจากนักข่าวว่าตรงไหนบ้านลุงพล บ้านน้องชมพู่ และตรงไหนภูเหล็กไฟ วันนี้เดินทางมาอย่างถูกต้องตามกฎระเบียบ มาเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงบางอย่างเกี่ยวกับคดีนี้ โดยจะไม่ยุ่งกับคดีอื่น ภารกิจวันนี้คือจะพูดคุยกับลุงพล และภารกิจลับบางอย่างไม่ขอเปิดเผย และในวันพรุ่งนี้ จะขึ้นภูเหล็กไฟ พิสูจน์จุดพบศพน้องชมพู่ ว่าสามารถมาเสียชีวิตเองได้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ภารกิจลับนี้ ทนายตั้มจะมีข้อมูลเด็ดที่สามารถเปิดเผยความจริงเรื่องนี้หรือไม่ ทนายตั้มตอบว่า อาจจะเป็นข้อมูลที่ช่วยตำรวจ และข้อมูลบางอย่างอาจจะไม่เคยเปิดเผยที่อื่นมาก่อน ส่วนคดีนี้ ตนยังไม่ตอบรับ 100% ว่าจะรับทำคดีหรือไม่ ขอตรวจสอบข้อมูลให้ครบก่อน แต่ใจอยากช่วยลุงพล ซึ่งการขึ้นภูเหล็กไฟนี้ ทนายตั้มบอกว่าจะขึ้นมากกว่า 1 ครั้งเพื่อหาข้อมูลบางอย่าง
จากนั้นทนายตั้ม ก็ไปที่บ้านลุงพล ลุงพลอยู่หน้าบ้าน แล้วเชิญทนายตั้มเข้าบ้าน และขอคุยเป็นการส่วนตัว ทนายตั้ม ก็เดินไปสำรวจจุดสร้างพญานาคพ่อปู่ปาริจิตนาคราช และหมู่บ้านยูทูบเบอร์ และเข้าไปคุยกับลุงพล และป้าแต๋นเป็นการส่วนตัวในบ้านพัก
ทั้งนี้มีรายงานว่า ช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมในความผิด ข้อหา ตัดไม้ในเขตพื้นที่ป่าสงวน ตามมาตรา 11 พรบ.ป่าไม้ แจ้งความเอาผิดลุงพลและพวก
นายพรภิรมย์ อุระแสง ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้มุกดาหาร พร้อมด้วย นายวีระ ใสแก้ว หัวหน้าหน่วยป้องกันป่าที่ มห.2 (ดงหลวง) นำเอกสารพร้อมภาพนิ่งและวีดีโอการตัดไม้ของนายไชย์พลพร้อมพวก เข้าแจ้งความเอาผิดนายไชย์และมอบเอกสารให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยเวร สภ.กกตูม ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร หลังจากได้ตรวจสอบและร่วมรวมหลักฐานเรียบร้อย
นายพรภิรมย์ อุระแสง กล่าวว่า วันนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ได้นำคลิปที่ออกสื่อ และส่วนของการดำเนินคดีว่าจะช้าหรือเร็วจะยังไม่สามารถตอบได้ ซึ่งเป็นความลับในการดำเนินการครั้งนี้ก็ถือว่าไม่เร็วไม่ช้า ทำตามขั้นตอนต้องตรวจสอบให้ครบถ้วนรอบครอบ ข้อกล่าวหาที่แจ้งหลัก ๆ ในวันนี้นั้นก็เป็นไปตามที่สื่อเสนอไปคือ กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ฐาน ร่วมกัน ทำไม้ หรือทำด้วยประการใดๆแก่ไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตร 69 ฐาน มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตรา ค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขาย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐาน ทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ส่วนจำนวนผู้ที่ถูกแจ้งความนั้นตอนนี้ยังไม่สรุปว่ามีจำนวนกี่คน เพราะมีหลักฐานเพิ่มก็จะแจ้งอีก เพราะข้อหาการทำไม้นั้น จะรวมไปถึงพวกที่ดึง ลากเลื่อย รวมอยู่ในข้อหาการทำไม้ทั้งหมด
อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร