เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 4 ก.พ.64 นายกฤติเดช ศรียงค์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงขอนแก่นที่ 2 (ชุมแพ) จ.ขอนแก่น กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า การขายของในเขตทางหลวงอันตรายมากทั้งกับตัวผู้ซื้อ ผู้ขายและผู้ใช้รถใช้ถนน เพราะรถที่จอดซื้อของตามไหล่ทาง จะมีการจอดเป็นช่วงๆติดกันมีการหักเข้าออกจากทางหลักตลอดเวลาเพื่อเเวะซื้อของ นำไปสู่การเฉี่ยวชนกับรถทางตรง อีกทั้งแผงขายของจะบดบังระยะมองเห็นปลอดภัยและบดบังป้ายต่างๆของทางหลวง รวมถึงทางเท้าที่เคยถูกกำหนดให้เป็นทางเดินสำหรับสัญจรของประชาชน แต่กลับเต็มไปด้วยแผงขายสินค้า ทั้งรถเข็น และหาบเร่-แผงลอย ที่จับจองพื้นที่ริมฟุตปาธของถนนเส้นต่างๆ หรือแม้กระทั่งตามซอยต่างๆ ก็เต็มไปร้านขายสินค้า มีตั้งแต่อาหารปรุงสำเร็จรูป อาหารว่าง ขนม เสื้อผ้า ผักและอาหารสด ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
ดังนั้นทางหลวงชุมแพ จึงเตรียมใช้ยาแรงจัดการ ผู้กระทำผิดกฎหมายขายของในเขตทาง รุกล้ำเขตทางและทางเท้า โดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก การแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ ช่วยขนย้ายออก และจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งในพื้นที่อำเภอชุมแพ ขณะนี้ถึงขั้นตอนการจับกุมดำเนินคดีแล้ว สำหรับการตั้งร้านค้าบริเวณไหล่ทางนั้นเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535 ม.44 ซึ่งบัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดซื้อ ขาย แจกจ่าย หรือเรี่ยไรบนทางจราจรและไหล่ทาง” และถ้าผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ม.73/1 แห่ง พ.ร.บ. เดียวกัน รวมทั้งตามกฎหมายทางหลวงฉบับนี้ยังห้ามไม่ให้มีการสร้างหรือติดตั้งสิ่งใดในเขตทางหลวง เว้นแต่ได้รับอนุญาต
สำหรับท่านต้องการจะตั้งร้านค้าบริเวณทางหลวงนั้นต้องตั้งหรือสร้างภายนอกเขตทางหลวง ซึ่งระยะเขตทางหลวงของทางหลวงแต่ละสายนั้นจะไม่เท่ากันตามชั้นและประเภทของทางหลวง โดยท่านสามารถกะประมาณแนวเขตทางหลวงได้จากแนวเสาไฟฟ้าที่ตั้งอยู่บริเวณทางหลวง โดยเขตทางหลวงจะอยู่ด้านนอกแนวเสาไฟฟ้าออกไปประมาณ 1.50 เมตร