ชาวบ้านที่จังหวัดขอนแก่น ถูกสวมสิทธิ์โครงการ คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน และ เราชนะ ชาวบ้านบางส่วนไม่แจ้งความดำเนินคดี เพราะเห็นเป็นคนบ้านเดียวกัน และกลัวโดนคดี เพราะขายสิทธิโครงการของรัฐ
วันที่ 3 กุมภาพันธุ์ 2564 บ้านโนนค้อ ตำบลโคกงาม อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น ได้มีชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุถูกมิจฉาชีพหลอกว่า มีเงินสนับสนุนจากรัฐบาลสำหรับคนที่ไม่ได้ไปเที่ยวจะได้รับเงินทั้งหมด 200 บาท ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุก็ได้หลงเชื่อว่ามีโครงการนี้จริงๆ ก็ได้นำบัตรประชาชนไปให้กับมิจฉาชีพคนดังกล่าว พร้อมกับรับเงินจำนวน 200 บาทมา ก่อนจะมีบางคนที่ใช้ธนาคารกรุงไทยซึ่งมีการตั้งค่าแจ้งเตือนไว้ก็พบว่ามีเงินเข้าออกบัญชี G-WALLET ของแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง โดยมีการใช้สิทธิคนละครึ่ง และสิทธิเราเที่ยวด้วยกันโดยมีการเติมเงินเข้าแอพเป๋าตังและใช้จ่ายไปอย่างรวดเร็ว
นายเอ(นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า แม่ของตนนั้นได้นำบัตรประจำตัวประชาชนของตนและคนในบ้านเพื่อนำไปรับเงินจำนวน 200บาท โดยแม่ของตนเองนั้นได้รู้ข่าวมาจากคนในหมู่บ้านบอกต่อกันมา ให้นำบัตรประจำตัวประชาชนไปยื่นให้คุณครูคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกันเพื่อรับเงินสวัสดิการชดเชยจากโครงการของรัฐ และจะได้เงินสดจำนวน 200 บาทและซิมมือถือฟรี โดยผู้เสียหายกล่าวว่าหลังจากที่ได้นำบัตรประจำตัวประชาชนไปลงทะเบียนพร้อมซิมมือถือนั้นแล้ว ก็มีข้อความการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านแอพเป๋าตัง จากโครงการคนละครึ่งแจ้งเตือนเข้ามายังมือถือของตนเพราะปกติแล้วตนเองนั้นใช้แอพธนาคารกรุงไทยและมีการเชื่อมไว้กับไลน์เพื่อให้ขึ้นการแจ้งเตือนเวลามีธุรกรรมทางการเงิน ทำให้ตนเองเกิดความสงสัยและได้ย้อนดูข้อความการแจ้งเตือนของธนาคารทั้งหมด พบว่าตนนั้นไม่ได้ทำธุรกรรมหรือใช้สิทธิ์คนละครึ่งตามข้อความแต่อย่างใด
ปกติแล้วสิทธิคนละครึ่งของตนนั้น จะถูกใช้ช่วงเวลาก่อน 07.00 น. ทำให้ต้องตื่นแต่เช้าก่อน 07.00 เพื่อมาใช้สิทธิคนละครึ่ง ถ้าเกิดไม่ใช้สิทธิเราก็จะถูกมิจฉาชีพใช้สิทธิ์ของเรา จึงฝากเตือนชาวบ้านที่ไม่มีลูกหลานคอยดูแลอย่าเห็นแก่เงิน แค่ 100-200 บาท มันไม่คุ้มกับสิทธิที่เราเสียไป หลังจากนั้นก็ได้ซิมที่ว่าจะมีการแจกพร้อมกับเงินจำนวน 200 บาท คืนครบทุกคน
หลังจากเกิดเรื่องชาวบ้านก็เสียงแตกออกเป็น 2 เสียง มีบางส่วนก็ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.บ้านฝาง เพื่อไว้เป็นหลักฐานและจะไม่ดำเนินคดีเพราะว่าคนที่มาชักชวนนั้นเป็นคนในหมู่บ้าน และไม่เสียดายสิทธิคนละครึ่ง กับสิทธิเราเที่ยวด้วยกันที่เสียไป แต่ชาวบ้านบางส่วนก็จะมีการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อไป
