ขอนแก่น(ชมคลิป)จัดกิจกรรม “ทำนาวิถีไทย ร่วมใจลดฝุ่น PM 2.5” เพื่อเป็นพื้นที่ต้นแบบและเป็นการสืบสานประเพณีลงแขกดำนาแบบไทยดั้งเดิม

“ทำนาวิถีไทย ร่วมใจลดฝุ่น PM 2.5″ เพื่อเป็นพื้นที่ต้นแบบและเป็นการสืบสานประเพณีลงแขกดำนาแบบไทยดั้งเดิม พร้อมลดปริมาณฝุ่นละอองในพื้นที่นาข้าว

    ที่บ้านท่าแก หมู่ 6 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสุเทพ มณีโชติ รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานกิจกรรมทำนาวิถีไทยร่วมใจลดฝุ่น PM 2.5  บนเนื้อที่ 2 ไร่ของ ด.ต.สังคม ปานิคม อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 3 บ้านท่าแก  หมู่ 6 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดขอนแก่น/ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10/ สำนักงานเกษตรจังหวัดขอนแก่น และชาวบ้านท่าแก  เพื่อเป็นพื้นที่ต้นแบบและเป็นการสืบสานประเพณีลงแขกดำนาแบบไทยดั้งเดิม

     นายสุเทพ มณีโชติ รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า เนื่องจากปัญหามลพิษทางอากาศด้านฝุ่นละออง ฝุ่น PM2.5  ส่งผลกระทบในวงกว้าง คณะรัฐมนตรี จึงมีมติเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 ให้การแก้ไขปัญหาฝุ่นเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันแก้ไขปัญหานำไปสู่เป้าหมายของประเทศในการสร้างอากาศที่ดี เพื่อคนไทยและผู้มาเยือน

 จังหวัดขอนแก่น เป็นจังหวัดหนึ่งที่ประสบปัญหามลพิษทางอากาศฝุ่นละอองจากการเผาในที่โล่ง เผาใบอ้อย เผาตอซังข้าว ซึ่งข้อมูลตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ พบว่า มีหลายช่วงเวลาที่จังหวัดขอนแก่น ค่าดัชนีคุณภาพอากาศมีค่าสูงเกินมาตรฐาน และมีค่าอยู่ในเกณฑ์ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

     ดังนั้น การแก้ปัญหาฝุ่นละอองอีกทางหนึ่งที่สามารถดำเนินการได้ คือการลดปริมาณฝุ่นละอองในพื้นที่นาข้าว โดยภายหลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว หากทำการไถกลบตอซังข้าวลงไปในดินระหว่างการเตรียมพื้นที่เพาะปลูกในขณะที่ดินมีความชื้น จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ช่วงระยะเวลาหนึ่งเพื่อให้เกิดกระบวนการย่อยสลายในดิน จะกลายเป็นแหล่งของอินทรียวัตถุและธาตุอาหารพืช แล้วจึงปลูกพืชหลักตามที่ต้องการต่อไป และยังเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการใช้ปุ๋ยเคมีเพิ่มธาตุอาหาร และยังทำให้ได้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้นอีกด้วย

     ด.ต.สังคม ปานิคม  กล่าวว่า ที่นาแปลงนี้ทางจังหวัดชวนให้รณรงค์ไม่ให้เผาตอซังข้าว ตนเองทำนาที่ตรงนี้ 7 ไร่ แต่มีนาทั้งหมดอยู่ 10 กว่าไร่  ตนยินดีเข้าร่วมรณรงค์เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับชาวนาในการไม่เผาตอซังข้าว ซึ่งตนได้ทำนาแบบไม่เผาตอซังข้าวมาประมาณ 3-4 ปีแล้ว แต่มันจะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย จะเป็นส่วนที่ดีมากกว่าซึ่งทำให้ที่นาร่วนซุยและมีธาตุอาหารมากขึ้นและไม่ก่อให้เกิดมลพิษกับสิ่งแวดล้อม ส่วนข้อเสียอาจจะอยากเนื่องจากมีตอซังข้าวแต่เราจะมีการไถกลบเหมือนกับที่ทางจังหวัดให้คำแนะนำ และปล่อยน้ำใส่ลงไป ตอซังข้าวมันก็จะค่อยค่อยย่อยสลายไปและจะมาทำการคลาดอีกครั้งหนึ่ง  ซึ่งสรุปได้ว่าจะมีข้อดีมากกว่าข้อเสียเพราะเวลาที่เราเผาตอซังข้าวสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในนาก็จะถูกทำลายไปด้วย เช่นเป็นจุลินทรีย์ที่อยู่ในดิน  ตนจึงอยากเชิญชวนให้เกษตรกรหันมาทำนาแบบไม่เผาตอซังข้าว ถ้าดูในรูปผลประโยชน์จะได้ผลประโยชน์มากกว่าการเผาตอซังข้าวก็คือเราได้ปุ๋ยในนาโดยธรรมชาติและไม่ก่อให้เกิดมลภาวะและสิ่งแวดล้อม สอดรับกับที่ทางรัฐบาลกำลังรณรงค์ในเรื่องของ PM 2.5.

คลิป, เกษตร

Related posts

404 Not Found
404
Sorry, the page you visited does not exist.
It may be that the access link is wrong or the file does not exist.