วันที่ 26 มกราคม 64 ที่กองร้อยทหารพรานที่ 2109 บ้านท่าดอกแก้ว ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นายสมศักดิ์ ชุ่มแจ่ม นายอำเภอท่าอุเทน พ.ต.อ.แสวง คนคล่อง ผกก.สภ.ท่าอุเทน พ.ต.อ.สมเกียรติ สมใจ ผกก.ตม.จว.นครพนม ร้อยโท ชายชัช วรดี ผบ.ร้อย ฉก.ทหารพราน ที่ 2109 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วม นาวาโทวิระวุฒิ บุญจันทร์ หัวหน้าสถานีเรือบ้านแพง ร่วมกับ ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ตชด.237 แถลงข่าวการจับกุมนายวิทยา ริยะบุตร อายุ 36 ปี ชาวบ้าน ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พร้อมของกลาง ยาบ้า ประมาณ 74,000 เม็ด ยาไอซ์ 1.087 กิโลกรัม ได้ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านน้อยลวงมอง หมู่ที่ 8 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 ม.ค.64 ร้อยโท ชายชัช วรดี ผบ.ร้อย ฉก.ทหารพราน ที่ 2109 ฉก.กพ.21 ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการส่งมอบลำเลียงยาเสพติด จาก สปป. ลาว บริเวณน้อยลวงมอง ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จึงได้ทำการวางกำลังซุ่มกระจายตามจุดเสี่ยง เมื่อเวลา 05.00 น. พบเรือหางกีบเผายาวติดเครื่องยนต์ จำนวน 1 ลำ พายมาจอดเทียบท่า ริมฝั่งแม่น้ำโขง ได้วางวัตถุต้องสงใสไว้ริมฝั่งแม่น้ำโขง มีกลุ่มชายต้องสงสัย จำนวน 3 คน กำลังจะเดินลงมารับสิ่งของดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบ กลุ่มชายดังกล่าวได้วิ่ง หลบหนีกระจัดการะจายไปคนละทิศคนละทาง ก่อนสามารถจับกุมตัวนาย วิทยา ริยะบุตร อายุ 36 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า ประมาณ 74,000 เม็ด ยาไอซ์ 1.087 กิโลกรัม ได้ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านน้อยลวงมอง หมู่ที่ 8 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ก่อนทำบันทึกของกลางพร้อมผู้ต้องหาส่ง สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินตามกฏหมายต่อไป
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สอบสวน ทางผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ทำหน้าที่รับจ้างจากนายทุนชาวลาวให้ติดต่อลูกค้าฝั่งไทย เพื่อซื้อขาย ลักลอบนำเข้ายาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ทำหน้าที่รับส่งยาบ้า ตามแนวชายแดน เพื่อส่งต่อให้ลูกค้าที่เป็นเครือข่าย ซึ่งมีลูกค้ามาติดต่อซื้อขายหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสาน ได้ค่าจ้างครั้งละ 3,000 – 5,000 บาท ซึ่งจะใช้วิธีติดต่อผ่านโทรศัพท์มือถือ ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มารับจะไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เนื่องจากมีเครือข่ายเป็นผู้ติดต่อประสานงาน มีหน้าที่เพียงรับยาบ้ามาพักรอการส่งต่อ ทำไปเพราะคิดว่ารายได้ดี เนื่องจากไม่มีอาชีพเป็นหลัก ไม่มีรายได้ จึงตัดสินใจรับจ้างติดต่อซื้อขายยาบ้า ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนขยายผล ติดตามผู้ร่วมขบวนการ จากหลักฐานโพยในพื้นที่หลายจังหวัดของอีสาน เร่งจับกุมเครือข่ายมาดำเนินคดี และเพิ่มมาตรการเข้มในการสกัดกั้นปราบรามจับกุม ในพื้นที่แนวชายแดน เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมายังมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดต่อเนื่อง ในช่วงนี้พื้นที่ชายแดน จ.นครพนม พบว่ามีการลักลอบขนส่งยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง จึงได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงทุกภาคส่วน วางมาตรการสกัดกั้นปราบปราม ทำให้มีการจับกุมได้บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตามจะต้องเข้มงวดมากขึ้น ที่สำคัญจะต้องสร้างความร่วมมือกับภาคประชาชนในพื้นที่ชายแดน ในการแจ้งเบาะแสหาข่าว โดยในการจับกุมหลายครั้งที่ผ่านมาถือว่าได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านในพื้นที่ในการแจ้งเบาะแสจนสามารถจับกุมได้
ทั้งนี้จะต้องวางมาตรการทุกรูปแบบไม่ให้มีการทะลักเข้ามาเพิ่ม รวมถึงการสืบสวนเชิงลึก ขยายผลสู่เครือข่ายในพื้นที่ ทั้งผู้เสพ ผู้ค้ารายย่อย และรายสำคัญ เพื่อตัดวงจรการค้า
ข่าว/ภาพ ประทีป วชิระธัญญากุล จังหวัดนครพนม