กาฬสินธุ์(ชมคลิป)โดนอีกนับร้อยผู้สูงอายุถูกหลอกนำบัตรประชาชนแลกซื้อโทรศัพท์ยกหมู่บ้าน


พบอีกผู้สูงอายุในตำบลหนองกุงศรี อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ นับ 100 คน โดนใบแจ้งหนี้ทวงค่าซื้อโทรศัพท์ และหนังสือจากสำนักกฎหมายยกหมู่บ้าน เข้าคิวลงทะเบียนร้องทุกข์กับผู้ใหญ่บ้าน ขณะที่หญิงสาวในหมู่บ้านคนเก็บบัตรประชาชนปรากฏตัว ยืนยันความบริสุทธิ์ เรียกร้องเจ้าของร้านขายโทรศัพท์รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังมีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่ออีกหลายร้อยคน

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีผู้สูงอายุบ้านหนองหว้า ม.9 ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ รวมตัวกันที่ศาลาประชาคมหมู่บ้าน เพื่อขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังได้รับหนังสือทวงหนี้จากสำนักงานกฎหมายจากของบริษัทเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ เรียกเก็บเงินค่าบริการรายเดือนเฉลี่ยรายละ 3,299 บาท ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่ไม่มีอาชีพและไม่มีรายได้ มีเพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเท่านั้น จึงไม่มีเงินจ่าย และกำลังจะถูกฟ้องร้องในวันที่ 9 ธันวาคม 2563 ที่จะถึง ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

ทั้งนี้หลังจากมีข่าวเผยแพร่ออกไปทำให้มีกลุ่มผู้สูงอายุที่ตกเป็นเหยื่อออกมาขอความเป็นธรรมอีกจำนวนมาก โดยล่าสุดที่ทำการผู้ใหญ่บ้านโคกเจริญ หมู่ 10 ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์  นายคงเดช ภูนพทอง ใหญ่บ้านโคกเจริญ หมู่ 10 ได้ประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านที่ได้รับใบแจ้งหนี้ทวงค่าบริการโทรศัพท์ และหนังสือจากสำนักกฎหมาย มาลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน ก่อนดำเนินการแก้ไขปัญหาในลำดับต่อไป โดยมีชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 60-70 ปี มาต่อคิวลงชื่อเป็นจำนวนมากอย่างน้อย 100 ราย

นายคงเดช ภูนพทอง ใหญ่บ้านโคกเจริญ หมู่ 10 กล่าวว่า กรณีดังกล่าว เบื้องต้นชาวบ้านหลายคน ที่ได้รับหนังสือทวงหนี้ค่าบริการโทรศัพท์ เคยมาปรึกษาตนเมื่อประมาณปลายปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งตนและชาวบ้านกลุ่มนี้ได้นำหนังสือทวงค่าโทรศัพท์ไปปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองกุงศรี แล้วครั้งหนึ่ง โดยมีการพูดคุยกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องว่า หากชาวบ้านเป็นผู้บริสุทธิ์จริง ถึงแม้จะได้รับใบทวงหนี้ดังกล่าวก็ไม่ต้องตกใจ ไม่มีปัญหาอะไร เพราะอาจจะเกิดความคาดเคลื่อนจากต้นทางที่ส่งหนังสือมาทวงหนี้ ซึ่งที่ผ่านมาก็เงียบหายไป ก่อนที่จะมีหนังสือตามทวงหนี้ และจะส่งฟ้องส่งมาถึงชาวบ้านอีกในช่วงนี้

นายคงเดช กล่าวอีกว่า ในส่วนกลุ่มผู้สูงอายุบ้านโคกเจริญที่ได้รับหนังสือทวงหนี้และหนังสือจากสำนักกฎหมายของบริษัทดังกล่าว ระบุจะถูกส่งฟ้องดำเนินคดีในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา เหตุไม่ชำระค่าบริการโทรศัพท์จำนวน 3,229 บาท แต่จริงแล้วก็ไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหลายหมู่บ้าน ในเขตรอบตัว อ.หนองกุงศรี ลักษณะเดียวกับบ้านหนองหว้า หมู่ 9 และบ้านโคกเจริญ หมู่ 10 ทำให้ชาวบ้านเกิดความวิตกกังวล คาดว่าน่าจะมีประมาณ 200 คนที่ถูกหลอก ตนจึงได้ประกาศเพื่อให้ชาวบ้านที่ได้รับหนังสือดังกล่าว มาลงทะเบียนไว้เป็นหลักฐาน และจะได้ดำเนินการแก้ไขปัญหา ทั้งในส่วนของการจะไปปรึกษากับศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ด้านนางสำราญ บุญเสริม อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164 บ้านโคกเจริญ หมู่ 10 กล่าวว่า ตนเป็นอีกคนหนึ่งที่เคยให้บัตรประชาชนกับคนรู้จักในหมู่บ้าน เพื่อไปลงทะเบียนซื้อโทรศัพท์พร้อมโปรฯ โดยในเขตหมู่บ้านโคกเจริญจะได้รับเงินเป็นค่าตอบแทนคนละ 150 บาท ก่อนที่จะมารู้ตัวว่าถูกหลอกหลังได้รับใบทวงหนี้ค่าโทรศัพท์ดังกล่าว ทั้งๆที่ตนและชาวบ้านที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน ต่างยืนยันไม่ได้เครื่องโทรศัพท์ และใช้หมายเลขโทรศัพท์ตามที่ระบุมาในใบแจ้งหนี้เลย จากการสอบถามชาวบ้านด้วยกัน ทั้งภายในหมู่บ้านโคกเจริญทั้ง 2 หมู่ คือ หมู่ 10 และหมู่ 3 น่าจะมีไม่น้อยกว่า 200 คน อย่างไรก็ตาม ต้องถือว่าเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้กับผู้สูงอายุ ที่เห็นแก่เงินเล็กๆน้อยๆ จึงถูกคนที่ตนไว้ใจหลอก และเป็นที่มาของได้รับหนังสือทวงหนี้ค่าโทรศัพท์ดังกล่าว

ขณะที่นางสาวบังอร จันละคร  อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 63 บ้านโคกเจริญ หมู่ 10 ซึ่งได้เดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ใจที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ตนเองที่เป็นคนไปหาเก็บบัตรประจำตัวประชาชนของชาวบ้านไปดำเนินการดังกล่าว ซึ่งจริงๆแล้วไม่มีเจตนาจะไปหลอกลวงญาติพี่น้องหรือชาวบ้านคนใดเลย เพราะหากมีเจตนาดังกล่าวตนคงจะหลบหนีออกจากหมู่บ้านไปนานแล้ว ที่ตนยังอยู่ในหมู่บ้านเพราะไม่เคยคิดจะไปหลอกลวงใคร ส่วนที่เรื่องเกิดขึ้นนั้นเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะหลงเชื่อคำเชิญชวนของเจ้าของร้านขายโทรศัพท์ และอยากมีรายได้ ซึ่งก็ไม่ได้มากมายอะไร

นางสาวบังอร กล่าวอีกว่า เหตุการณ์เริ่มจากเมื่อประมาณต้นปี 2562 ตนได้ไปซื้อโทรศัพท์ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายแห่งหนึ่ง ในตัว อ.หนองกุงศรี จากนั้นได้รับคำแนะนำจากตัวแทนขายให้ไปหาลูกค้ามาซื้อโทรศัพท์พร้อมโปรโมชั่นกับเครือข่ายของบริษัทจำหน่ายโทรศัพท์ โดยตนจะได้รับค่าตอบแทนด้วย วิธีการคือไปหาติดต่อนำบัตรประชาชนจากชาวบ้านมาให้ทางร้านลงทะเบียน และให้ค่าตอบแทนชาวบ้านคนละ 150 บาท ซึ่งตนก็ไปหาเก็บบัตรประชาชนภายในหมู่บ้าน ซึ่งจำไม่ได้ว่าจำนวนกี่คน เพราะไม่ได้ทำบัญชีไว้ และไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องดังกล่าว โดยมีใบแจ้งหนี้และใบส่งฟ้องร้องมาถึงชาวบ้าน  

อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องให้ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์ร้านดังกล่าว มาแสดงความรับผิดชอบ กับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย เพราะหากจะให้ตนรับผิดชอบ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะตนไม่ใช่เจ้าของบริษัทและไม่ใช่ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์ดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านก็เข้าใจตน

ทั้งนี้จากการสอบถามชาวบ้านและผู้สูงอายุ ที่ได้รับความเดือดร้อน จากการได้รับใบทวงหนี้และหนังสือยื่นฟ้องร้องจากสำนักกฎหมาย เบื้องต้นคาดว่าจะมีประชาชนในพื้นที่ อ.หนองกุงศรี และใกล้เคียงที่เป็นผู้สูงอายุถูกหลอกอีกหลายร้อยคน และมีคนเดินเก็บบัตรประจำตัวประชาชนของผู้สูงอายุหลายราย กระจายอยู่ตามหมู่บ้านต่างๆ โดยได้รับคำแนะนำจากตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์ให้ไปหาติดต่อกับคนใกล้ชิด และผู้สูงอายุ ที่หลงเชื่อง่าย  ทั้งนี้ระบุว่าคนเก็บบัตรแต่ละคนจะได้ค่าตอบแทนจากร้านจำหน่ายโทรศัพท์ต่างกัน เช่น บางคนจะได้ทองคำ บางคนจะได้โทรศัพท์ และบางคนได้ค่าส่วนต่างเป็นเงิน ดังนั้น ชาวบ้านจึงอยากเรียกร้องให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ดำเนินคดีกับผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ด้วย เพราะชาวบ้านต่างยืนยันในความบริสุทธิ์ของตน และทุกวันนี้เกิดอาการเครียด ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก หลายคนถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับทีเดียว

คลิป, ร้องเรียน

Related posts

404 Not Found
404
Sorry, the page you visited does not exist.
It may be that the access link is wrong or the file does not exist.