วันที่ 1 ธันวาคม 2563 เวลา 11.00 น. ณ กองบังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม (บก.นรข.เขตฯ) อ.ธาตุพนม จ.นครพนม น.อ.สุรศักดิ์ สุวรรณเกษา ผบ.นรข.เขตนครพนม แถลงข่าวการจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวลาว 2 คน และผู้นำพาเป็นคนไทยอีก 1 คน รวมเป็น 3 คน พร้อมของกลางรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ D-MAX แค๊บ รุ่น HI-LANDER สีดำ ทะเบียน ฒต 1867 กรุงเทพมหานคร โดยเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย บริเวณบ้านนาคำ หมู่ 13 ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จึงสั่งการให้ น.ท.พิเชษฐ์ เมืองโคตร หน.สถานีเรือธาตุพนม จัดชุดลาดตระเวนเข้าตรวจสอบ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงตามที่ได้รับแจ้ง
กระทั่งเวลา 19.30 น. พบเรือหาปลาติดเครื่องยนต์แล่นมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จอดเทียบท่าแล้วมีชาย 2 คน เดินขึ้นมาอยู่บนชายฝั่ง จากนั้นเรือหาปลาก็เบนหัวกลับไปฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว ชายทั้งสองเดินขึ้นมายืนอยู่ริมถนน โดยมีกระเป๋าเสื้อผ้าสะพายอยู่ด้านหลัง ต่อมาไม่นานก็มีรถกระบะมาจอดรับ เจ้าหน้าที่จึงออกจากที่ซุ่มแสดงตัวขอตรวจค้น พบเป็นราษฎรชาวลาวที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทราบว่าชื่อท้าวดิด สุวันนา อายุ 25 ปี และท้าวดำ สุวันนา อายุ 21 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านท่าขาม เมืองไชยบุรี แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว โดยทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน และผู้นำพาคนไทยที่มารับชื่อนายพรศักดิ์ พรมพินิจ อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 276 หมู่ 10 ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จึงได้นำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พร้อมรถยนต์ของกลางไปสอบสวน
เบื้องต้นนายพรศักดิ์เผยว่ามีอาชีพรับจ้างกรีดยางพาราอยู่ในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม และได้รู้จักกับชาวลาวชื่อท้าวสุก ที่มารับจ้างกรีดยางอยู่ในพื้นที่ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ต่อมาท้าวสุกวานให้ไปรับน้องชายที่ริมแม่น้ำโขงบ้านนาคำ หมู่ 13 ต.ธาตุพนม โดยจะเติมน้ำมันให้ 1,500 บาท เมื่อรับมาแล้วให้พาไปส่งที่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม ตนเห็นว่าเป็นงานง่ายๆจึงรับปาก แล้วก็ขับรถมาจอดรับตามที่ท้าวสุกบอก กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดังกล่าว
ด้านท้าวดิดกับท้าวดำสองพี่น้องเล่าว่า ท้าวสุกพี่ชายชวนมากรีดยางฝั่งประเทศไทย โดยว่าจ้างเรือหาปลาแล่นมาส่งบริเวณดังกล่าว และยอมรับว่ารู้อยู่แล้วว่ามีการปิดพรมแดน แต่ก็อยากมาทำงาน จึงแอบลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวทั้งสองไปตรวจฉี่พบเป็นสีม่วง ส่วนนายพรศักดิ์ระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ บก.นรข.เขตนครพนม มีพี่สาว 2 คนมาต่อว่าที่เห็นแก่เงินเล็กๆน้อยๆ รู้ทั้งรู้ว่าผิดกฎหมายก็ยังทำ
ด้าน น.อ.สุรศักดิ์ สุวรรณเกษา ผบ.นรข.เขตนครพนม เปิดเผยว่าพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับผู้ว่าราชการทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนไทยที่ติดประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเมียนมาร์ กัมพูชา ลาว มาเลเซีย เพิ่มความเข้มงวดเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย พร้อมบูรณาการทุกภาคส่วนติดตามการลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายอย่างเร่งด่วน หลังพบว่ามีแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน ลักลอบเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ก่อให้เกิดความกังวลในความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงขอบอกกล่าวไปยังแรงงานต่างด้าวชาวลาวว่า อย่าลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ขอให้อดใจอีกหน่อย หากสถานการณ์คลี่คลายทุกอย่างก็จะเป็นปกติฯลฯ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป