ชาวนาในจังหวัดกาฬสินธุ์ แห่นำข้าวเปลือกไปตากผึ่งแดดตามลานภายในบริเวณสถานีตำรวจ ทดแทนการตากตามถนนหลวงที่เสี่ยงกับการเกิดอุบัติเหตุ หรือนำไปตากสถานที่ต่างๆ ซึ่งอาจจะถูกโจรลักขโมยไปขาย หลังราคารับซื้อข้าวเปลือกมีการปรับราคาขึ้นสูงเกือบตันละ 10,000 บาท
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการตากข้าวเปลือกนาปีของชาวนาใน จ.กาฬสินธุ์ หลังจ้างรถเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว พบว่าในกลุ่มที่ไม่ได้นำไปขายสด ซึ่งได้ผลผลิตข้าวเป็นจำนวนมาก ไม่มีพื้นที่ตาก ต่างนำไปผึ่งตากตามพื้นที่ว่าง ภายในสถานที่ราชการ เช่น วัด โรงเรียน และสถานีตำรวจ ทั้งนี้ ต่างให้เหตุผลว่าปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงกับการเกิดอุบัติเหตุ หรือโจรลักขโมย หากนำไปตามตามถนนหลวงและที่อื่นๆ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางโซเชียล ว่ามีการเกิดอุบัติเหตุและข้าวเปลือกถูกขโมยดังกล่าว
นายอาทิตย์ พูนลาภ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 8 บ้านนากุง ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากจ้างรถเกี่ยวสดแล้ว ตนและเพื่อนชาวนาได้นำข้าวมาตากที่ลานหน้าสถานีตำรวจภูธรนากุง ซึ่งมีพื้นที่ว่าง ขว้างขวาง ซึ่งสะดวกและปลอดภัยกว่านำไปตากตามถนนหลวง หรือที่อื่นๆ ซึ่งเสี่ยงกับการเกิดอุบัติเหตุ ถูกรถเฉี่ยวชน และอาจจะถูกโจรลักขโมยได้ เนื่องจากช่วงนี้ราคารับซื้อข้าวเปลือกเจ้าและข้าวเปลือกเหนียว ตามแหล่งรับซื้อทั่วไป มีการปรับตัวสูงขึ้นแล้ว หลังจากชาวนาชะลอการขายและผึ่งแดดให้แห้ง โดยมีราคา ก.ก.ละเกือบ 10 บาทหรือตันละ 10,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ชาวนาใน จ.กาฬสินธุ์หลายราย ยังระบุว่า ผลดีของการนำข้าวมาตากในบริเวณสถานีตำรวจ นอกจากจะปลอดภัยจากการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังป้องกันเหตุคนร้ายเข้ามาลักขโมยได้เป็นอย่าดีอีกด้วย ซึ่งทุกปีที่ผ่านมาทั้งในฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังหรือข้าวฤดูแล้งและข้าวเปลือกนาปี จะมีคดีลักขโมยข้าวหลายครั้ง ขณะที่ปีนี้ ยังไม่มีเหตุข้าวเปลือกถูกลักขโมย คงจะเป็นเพราะราคาข้าวเปลือกตกต่ำ และมีการนำไปตากภายในสถานีตำรวจ ซึ่งคนร้ายไม่กล้าเข้าไปลักขโมย ทั้งนี้ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อำนวยความสะดวกและอนุญาตให้ชาวนานำข้าวเปลือกเข้ามาตากดังกล่าว