นครพนม (ชมคลิป) สนธิกำลัง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สกัดยึดยาบ้า บิ๊กล็อต กว่า 4 ล้านเม็ด คาริมโขง


วันที่ 26 พ.ย.63 ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นายสุวิทย์ จันทร์หวร รอง ผวจ.นครพนม พลตำรวจตรี วรายุทธ สุขวัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครพนม พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 และ พันตำรวจโท อภิสิทธิ์ รอดน้อย ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 ร่วมแถลงข่าวตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ จำนวน 4 ล้านกว่าเม็ด ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ฝ่ายข่าวของกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบขน ยาเสพติตบริเวณพื้นที่บนหาดทรายเพ ม.5 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เวลาประมาณ 03.00 – 05.00 น ของวันที่ 26 พ.ย. จากการตรวจสอบข่าวสารในพื้นที่ยืนยันว่ากลุ่มผู้ลำเลียงจะนำยาบ้าจำนวนมากดังกล่าวมาขึ้นฝั่งไทยตามข่าวสารดังกล่าวจริง แต่ยังไม่ทราบว่าจะเป็นจุดใดพื้นที่ บ.หาดทรายเพฯ


จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเจ้าหน้าที่ฯ ใช้กำลังพลเข้าลาดตระเวน โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อร่วมปฏิบัติการดังกล่าว จนกระทั่งวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 เวลาประมาณ 05.30 น เจ้าหน้าที่ได้พบเห็นกลุ่มบุคคลจำนวน 3-4 คน นั่งอยู่บริเวณริมตลิ่งบันไดทางลงเขื่อนป้องกันตลิ่งพังริมฝั่งแม่น้ำโขง ขึ้นจากริมฝั่งแม่น้ำโขงมากลางหมู่บ้านหาดทรายเพฯ (จุดเกิดเหตุ) โดยกลุ่มชายดังกล่าวเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้พากันวิ่งหลบหนีเข้าไปในหมู่บ้านหากทรายเพฯ จ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งวิ่งติดตามแต่ไม่สามารถติดไปได้ทัน ตรวจสอบบริเวณดังกล่าวพบวัตถุต้องสงสัยรูปกรสี่เหลี่ยมสีดำจำนวน 13 ก้อน วางอยู่บริเวณ จากการตรวจสอบก้อนวัตถุในเบื้องต้น ก้อน พบเป็นห่อบรรจุยาบ้า จำนวนมาก ก่อนตรวจยึดได้ประสานพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม มาเก็บรายละเอียดวัตถุของกลางแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ร่มกันตรวจยึดก้อนวัตถุทั้งหมดมายังที่ทำการ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดไป โดยในเบื้องต้นคาดว่านำจะมียาบ้าประมาณ 4,550,000 เม็ด ราคาประเมิน 455,000,000 บาท จึงได้นำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


โดย พล.ต.ต.วรายุทธ. สุขวัฒน์ ได้เน้นย้ำ “ให้กำลังพล ที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดน ไม่ให้สร้างเงื่อนไข และยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเด็ดขาด ตลอดจนการเรียกรับผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมาย และให้ปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติ ของ บช.ตชด.โดยเคร่งครัด”