เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 ที่สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พล.ต.ต.พุฒิพงษ์ มุสิกุล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ ผกก.สภ.น้ำพอง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.น้ำพอง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายสุกรี หรือ ตี๋ เชื้อคำฮด อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 ม.4 ต.พังแดง อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ปัจจุบันพักอยู่บ้านเช่า(หอพักบ้านจิราภรณ์ ห้องหมายเลข 4 ตลาดบ้านกอก ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น) ในพื้นที่ตำบลบ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง ยาบ้าทั้งสิ้น 192,000 เม็ด มูลค่าของกลาง 11,520,000 บาท ยาไอซ์ 3,000 กรัม มูลค่าของกลาง 6,000,000 บาท รวมมูลค่าของกลางทั้งสองรายการประมาณ 17,520,000 บาท
พล.ต.ต.พุฒิพงษ์ มุสิกุล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวถึงการจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวว่า เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีประชาชนในพื้นที่มาแจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบ่อยครั้งว่า มีคนแปลกหน้า ถือสิ่งของเดินเข้าออกในไร่อ้อยของชาวบ้านในพื้นที่ บ้านนาคู-บ้านคำจั่น ต.หนองกุง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และล่าสุดมีแหล่งข่าวแจ้งว่าวันที่ 6-7 พ.ย.จะมีพ่อค้ายาบ้ามารับส่งยาเสพติดกันที่ไร่อ้อย ทางด้านทิศตะวันออกบ้านนาคู ม.3 ต.หนองกุง อ.น้ำพอง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ
หลังรับแจ้งจึงได้วางแผนเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบและจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง วางกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไว้ในไร่อ้อยของชาวบ้านตามจุดที่รับแจ้ง กระทั่งพบนายตี๋ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า เอ็มที15 สีเทา-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาจอดอยู่บริเวณริมป่าอ้อยและเดินตรงไปยังป้ายโครงการก่อสร้างถนนซึ่งตั้งอยู่ริมถนนแล้วยกเอาถุงพลาสติกสีดำ เดินเข้าไปในป่าอ้อย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.น้ำพองจึงได้เดินติดตามเข้าไปซุ่มดูพบว่านายตี๋กำลังแบ่งยาเสพติดอยู่ จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุมตัวยาบ้า 84,000 เม็ด ไอซ์ 3,000 กรัม และควบคุมตัวไปสอบสวน ขยายผล
จากการสอบสวนนายตี๋ ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดเป็นของนายอ้าย ชาวสปป.ลาวซึ่งรู้จักกันตอนข้ามไปเที่ยวฝั่งลาวที่แขวงคำม่วน สปป.ลาว จึงมีการติดต่อและพูดคุยกันในเรื่องการซื้อขายยาบ้า และรับปากนายอ้ายทำหน้าที่ส่งยาบ้าเพียงอย่างเดียว โดยจะมีเครือข่ายนำยาบ้ามาวางไว้ในจุดต่างๆตามคำส่งของนายอ้าย จากนั้นนายอ้ายจะสั่งให้นายตี๋เอายาบ้าไปวางให้ลูกค้าตามจุดต่างๆ ซึ่งเป็นจุดรอยต่อของแต่ละอำเภอ ทั้ง อ.น้ำพอง อ.บ้านไผ่ อ.หนองเรือ และ อ.ชุมแพ ทำมาแล้ว 3 ครั้ง โดยติดต่อทางโทรศัพท์หมายเลข +8562092152541, +8562095457450 และ +8562096449619 ซึ่งนายตี๋จะไม่มีโอกาสเจอทั้งคนส่งยาบ้า และคนรับยาบ้า เพราะทุกคนจะติดต่อกันกับนายอ้ายเท่านั้น ส่วนยาบ้าที่ยึดได้นั้นเป็นเพียงบางส่วน เพราะมียาบ้าอีก 108,000 เม็ด ซ่อนอยู่ในป่าอ้อย จากนั้นนายตี๋ พาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าตรวจยึดยาบ้าได้เพิ่มอีก 108,000 เม็ด ในป่าอ้อย ห่างจากจุดแรกเพียงเล็กน้อย
ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวอีกว่า การสอบสวนนายตี๋ ยังให้การรับสารภาพอีกว่า ได้ติดต่อกับนายอ้ายและรับจ้างส่งยาเสพติดให้นายอ้ายมาแล้ว 3 ครั้งๆที่ 1 เมื่อเดือน พ.ค.2563 ที่บ้านในจังหวัดมุกดาหาร ส่งยาบ้าจำนวน 45 มัด หรือ 90,000 เม็ด ได้ค่าจ้าง 15,000 บาท ต่อมาได้รับการติดต่อจากนายอ้ายให้มาส่งยาเสพติดในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และได้มาเช่าห้องพักอยู่ที่ หอพักบ้านจิราภรณ์ ห้องหมายเลข 4 ตลาดบ้านกอก อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตั้งแต่เดือน ก.ย.2563 ลัสงยาเสพติดครั้งที่2 .oเดือน ต.ค.2563 ได้มารับยาบ้า ที่เครือข่ายนำมาวางไว้ที่เส้นทางระหว่างบ้านนาคู-บ้านคำจั่น ยาบ้าจำนวน 48 มัด หรือ 96,000 เม็ด แล้วนำไปวางให้กับลูกค้าตามที่นายอ้ายสั่งการ ครั้งที่ 3 คือครั้งที่ถูกจับกุมตัวได้ ได้รับคำสั่งจากนายอ้าย ว่ามียาเสพติด จำนวน 1 กระสอบมาวางไว้ที่ไร่อ้อย พื้นที่บ้านนาคู-บ้านคำจั่น อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ไปส่งให้ลูกค้า แต่ยังไม่ได้นำไปส่ง ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ก่อน
ขณะที่ พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ ผกก.สภ.น้ำพอง กล่าวถึงการจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวว่า ผู้ต้องหารายดังกล่าว ถือเป็นรายสำคัญที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.น้ำพอง ติดตามจับกุมมานาน เนื่องจาก รับแจ้งเบาะแสจากชาวบ้านในพื้นที่มาบ่อยครั้ง โดยครั้งล่าสุดก่อนการจับกุมนั้น แหล่งข่าวที่เป็นสายลับ แจ้งให้ทราบว่า นายอ้ายต้องการรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้าวีโว่ยกสูงแลกกับยาบ้าในราคาเม็ดละ 60 บาทหรือประมาณ 192,000 เม็ด โดยจะมีเครือข่ายนำยาบ้ามาและรถยนต์ในพื้นที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ในวันที่ 6 พ.ย.2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานงานกับสายลับ และนำรถยนต์ตามที่เครือข่ายยาเสพติดต้องการไปมอบให้สายลับ วีดีโอคอลคุยกับนายอ้ายว่ามีรถยนต์ตามที่ต้องการพร้อมแลกยาบ้าจริงให้นำยาบ้ามาแลกได้ตามวันเวลาที่นัดหมาย นายอ้ายตกลง และเมื่อถึงวัน เวลาที่นัดหมาย สายลับก็แจ้งว่ามีการส่งยาบ้ามาในพื้นที่จริง โดยทิ้งยาบ้าไว้ที่ไร่อ้อย และจะมีนายตี๋มารับยาบ้าในจุดนัดหมาย ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่รับแจ้งและไปตรวจสอบก็พบนายตี๋ขับขี่รถจักรยานยนต์มารับยาบ้าจริง จึงได้จับกุมตัวพร้อมของกลางดังกล่าว