กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ภาคีเครือข่ายและภาคประชาชน ยกระดับชุมนุมจาก ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนเดินเท้าปักหมุดปิดถนนมิตรภาพ พร้อมประกาศชัดจะชุมนุมทุกวันจนกว่าจะได้รับชัยชนะ 
วันที่ 19 ตุลาคม 2563 กลุ่มนักเรียนในชื่อ ภาคีนักเรียนKKC พร้อมด้วยกลุ่มนักศึกษาในชื่อ กลุ่มดาวดิน และกลุ่มขอนแก่นพอกันที รวมทั้งภาคีเครือข่ายผู้แสดงออกทางการเมืองและภาคประชาชนนับพันคน ร่วมกันเดินเท้าปิดถนนจากหน้าศูนย์อาหารและบริการ 1 (คอมเพล็กซ์) ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น มายังหน้าประตูมหาวิทยาลัยขอนแก่นฝั่งมอดินแดง ก่อนจะเข้าปิดถนนมิตรภาพสายขอนแกน-อุดรธานีบริเวณหน้าป้ายมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งทางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายร้อยนายได้ออกมาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมว่าไม่ให้ปิดถนนมิตรภาพทั้งหมดเพื่อให้รถได้สามารถสัญจรผ่านได้ ซึ่งทางผู้ชุมนุมได้ขอปิดถนนมิตรภาพ 2 เลนที่บริเวณหน้าป้ายมหาวิทยาลัย โดยไม่มีการปะทะหรือใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้ามาอำนวยความสะดวกให้กับผู้ชุมนุมและประชาชนทั่วไปในเรื่องของการจัดการจราจรให้คล่องตัว พร้อมกันนี้ผู้ชุมนุมได้นำรถเครื่องเสียงมาจอดปิดที่บริเวณหน้าทางเข้ามหาวิทยาลัย และกลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้กระจายกันปักหลักพร้อมกับเปิดแฟลชจากโทรศัพท์มือถือเพื่อชู 3 นิ้ว แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุด และยุบสภา ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง ก่อนที่แกนนำของกลุ่มนักศึกษาดาวดิน และขอนแก่นพอกันทีจะขึ้นกล่าวปราศรัยทางการเมือง ถึงการบริหารประเทศที่ล้มเหลวของรัฐบาลประยุทธ์ และการใช้อำนาจที่มิชอบของรัฐบาลที่หลอกลวงประชาชนนอกจากนี้ผู้ชุมนุมยังได้ประกาศชัดเจนในการชุมนุมต่อจากนี้ จะออกมาเคลื่อนไหวจัดการชุมนุมแฟลชม็อบทุกวันจนกว่าจะได้รับชัยชนะตามข้อเรียกร้องทั้งหมด
นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ แกนนำกลุ่มขอนแก่นพอกันที่ กล่าวว่า ณ เวลานี้การชุมนุมทั่วประเทศมีการยกระดับการชุมนุมทุกจังหวัด โดยที่ไม่ต้องรอการนัดหมายจากแกนนำคนใดคนหนึ่ง เพราะทุกคนคือแกนนำ แม้ว่าแกนนำจะถูกจับก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว แต่ประชาชนสำคัญที่สุดเพราะสามารถชุมนุมกันได้อย่างอิสระ เพราะเป็นความอัดอั้นตันใจของประชาชนที่ทนมากว่า 10 ปี หรือมากกว่านั้น ได้ออกมาแสดงพลังในวันนี้ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าขณะที่ตนเองอยู่ กทม. แกนนำที่ขอนแก่นไม่มีแม้แต่คนเดียว แต่การชุมนุมก็ยังมีเกิดขึ้นมาโดยตลอด ประชาชนนำกันเองได้ทำให้สิ่งนี้เป็นสัญญาณถึงรัฐบาลว่า พวกคุณทำงานลำบากแล้ว เพราะประชาชนสามารถคิดได้เอง ขอให้นายกลาออก เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ที่มีความเป็นเสรีและเป็นธรรม หยุดการใส่ร้ายประชาชน หยุดการปิดกั้นสื่อ เพราะนี่คือการรัฐประหารโดยการใช้กฎหมาย เพราะฉะนั้นถ้านายกประยุทธ์ยังไม่หยุด ประชาชนจะไม่ได้ออกมาแค่ต่อต้านเผด็จการแต่ประชาชนจะออกมาตต่อต้านรัฐประหารด้วย.
