พระลูกวัดทุ่งสว่าง อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น เข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว หลังใช้ท่อนเหล็กฟาดเจ้าอาวาสได้รับบาดเจ็บ เหตุเข้าใจผิดว่า เจ้าอาวาสฟ้องพระผู้ใหญ่ว่า เจ้าตัวแสดงความคิดเห็นไม่เหมาะสมทางเฟสบุ๊ค
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.พนักงานสอบสวน สภ.บ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น นำตัวพระวิทยา บุบผา อายุ 57 ปี พระลูกวัดทุ่งสว่าง อำเภอบ้านฝาง พร้อมสำนวนการสอบสวน ส่งให้พนักงานอัยการคดีศาลแขวงพิจารณาสั่งฟ้องฐานทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 หลังเข้ามอบตัวกับตำรวจ ในคดีทำร้ายร่างกายพระอธิการธนพงศ์ โชติวุฒโฑ อายุ 31 ปี เจ้าอาวาสวัดทุ่งสว่าง ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา โดยเจ้าอาวาสวัดทุ่งสว่าง ให้การว่า พระวิทยาไม่พอใจ เพราะเข้าใจผิดว่า ตนฟ้องพระผู้ใหญ่เรื่องพระวิทยาแสดงความคิดเห็นไม่เหมาะสมทางเฟสบุ๊ค จึงใช้ท่อนเหล็กฟาด,กระทุ้งใส่ จนเกิดรอยบวมช้ำขนาดใหญ่ที่ต้นขาซ้าย มีแผลฉีกขาดต้นแขนขวา ต้องเย็บ 3 เข็ม และราวนมขวา เย็บ 5 เข็ม 
พระวิทยา รับสารภาพว่า ทำร้ายเจ้าอาวาสจริง แต่ปฏิเสธว่า ไม่ได้ใช้เฟสบุ๊คในทางที่ไม่เหมาะสม เข้าไปศึกษาปาติโมกข์เท่านั้น ยอมรับว่า มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับเจ้าอาวาส แต่ขอปิดเป็นความลับ เพราะเป็นเรื่องระหว่างสงฆ์ หากศาลตัดสินให้จำคุก และต้องสึกจากความเป็นพระ ตนก็ยอมรับ หลังพ้นโทษ ตั้งใจว่า จะกลับมาบวช แต่จะเปลี่ยนไปอยู่นิกายธรรมยุติ เพื่อเน้นแนวทางปฏิบัติมากขึ้น จากเดิมอยู่มหานิกาย
ขณะที่พันตำรวจโทศักดิ์สิทธิ์ สายสมบัติ สารวัตรสอบสวน สภ.บ้านฝาง เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ แต่มูลเหตุจูงใจแตกต่างกัน โดยผู้ต้องหาอ้างว่า ถูกเจ้าอาวาสกลั่นแกล้ง ไม่อยากให้อยู่วัดด้วย เช่น ท่องหนังสือธรรมะอยู่ดีๆ ก็มาปิดไฟใส่ เป็นต้น โดยปกติวัดดังกล่าวมีเจ้าอาวาสอยู่ภายในวัดเพียงรูปเดียว ผู้ต้องหาเพิ่งเข้าไปขอจำพรรษาในช่วงเข้าพรรษาที่ผ่านมา ส่วนที่ไม่ฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายรับอันตรายสาหัสนั้น เพราะไม่เข้าองค์ประกอบ เนื่องจากมาตรานี้ ได้ให้คำนิยาม คำว่า อันตรายสาหัส ไว้ 8 ข้อ ได้แก่ (1) ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือเสียฆานประสาท
(2) เสียอวัยวะสืบพันธุ์ หรือความสามารถสืบพันธุ์ (3) เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้วหรืออวัยวะอื่นใด (4) หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว (5) แท้งลูก (6) จิตพิการอย่างติดตัว (7) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต (8) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน
จากนั้นในช่วงบ่าย พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องศาลแขวงขอนแก่น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลว่า จะมีคำพิพากษาออกมาในวันนี้เลย หรือจะสั่งให้เจ้าหน้าที่คุมประพฤติไปสืบเสาะและพินิจข้อเท็จจริง เพื่อนำรายงานมาประกอบการพิจารณาคดี
