ปิดการฝึกโครงการพระราชทาน โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง เรือนจำกลางขอนแก่น พร้อมปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2563 จำนวน 349 คน
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 ก.ย. ที่ เรือนจำกลางขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกโครงการพระราชทาน โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง เรือนจำกลางขอนแก่น ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานให้มีการฝึกโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง เรือนจำกลางขอนแก่น กรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา เพื่อสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็ก
โดยสามารถดำเนินการได้ในทุกเงื่อนไขของพื้นที่และมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพื้นฐานความคิด การฝึกวินัย การลงมือปฏิบัติ ตลอดจนการแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อนได้เมื่อพ้นโทษออกไปภายนอก การฝึกโครงการพระราชทาน โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง เรือนจำกลางขอนแก่น กรมราชทัณฑ์ มีผู้เข้ารับการฝึกเป็นผู้ต้องขังที่เป็นคนไทย 441 คน และชาวต่างชาติ 10 คน รวม 451 คน ฝึกอบรมเป็นเวลา 14 วันระหว่างวันที่ 1-14 กันยายน 2563 ซึ่งการฝึกอบรมได้ดำเนินการเสร็จสิ้น ครบถ้วน ตามหลักสูตรการฝึกอยู่ในเกณฑ์ดีมาก มีผู้สำเร็จการฝึกจำนวนทั้งสิ้น 451 คน ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา เรือนจำกลางขอนแก่น สามารถพึ่งพาตนเองได้ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ ทั้งสามารถช่วยเหลือประชาชนทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมได้
หลังจากนั้น นายพนมกร พจนา ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาผู้ต้องขัง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น ได้ดำเนินพิธีปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่มีความประพฤติดี ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษและปล่อยตัว ซึ่งในการพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ ได้มีพระมหากรุณาธิคุณ ให้ปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์คดีความผิดเล็กน้อย ผู้เจ็บป่วย พิการ หรือทุพพลภาพ และผู้มีอายุไม่ถึง 20 ปี รวมถึงคนชรา เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลเหล่านั้น ได้กลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป
สำหรับการปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ของเรือนจำกลางขอนแก่น ในวันนี้มีผู้ต้องขังราชทัณฑ์ ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว จำนวน 349 คน แยกเป็นนักโทษเด็ดขาด ชาย 288 คน นักโทษเด็ดขาดหญิง 59 คน และเป็นผู้ต้องกักขัง ชาย 2 คน
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์และครอบครัว ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ ผมขอแสดงความยินดีกับผู้ต้องราชทัณฑ์ทุกคน และให้พึงรำลึกไว้ว่าพระมหากรุณาคุณครั้งนี้ เสมือนการให้โอกาสการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ขอให้ทุกคนมุ่งมั่นประพฤติปฏิบัติตนในความดีงาม มีความจงรักภักดีในสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตั้งปณิธานเป็นคนดีของสังคมและประเทศชาติ ได้นำวิชาความรู้ในด้านต่างๆ ที่ได้รับการฝึกอบรมระหว่างต้องโทษ ไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต และประกอบอาชีพการงานที่สุจริตเลี้ยงตนเองและครอบคัว หากทำได้เช่นนี้ ก็จะถือได้ว่า สนองพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงคุณอันประเสริฐหาที่สุดมิได้ให้เป็นที่ประจักษ์