เจ้าหน้าที่กว่า 300 นาย เดินหน้ากระดานจุดประทัดลูกบอลและประทัดยักษ์ เพื่อไล่หมีออกจากป่าชุมชน แต่สุดท้ายยังไม่พบตัว ขณะที่เตรียมเพิ่มกรงดักสัตว์และโดรนจับความร้อนเพิ่ม ในการติดตามหาหมีควายที่ยังไม่เจอตัว
วันที่ 10 กันยายน 2563 ปฏิบัติการเดินเท้าปูพรมเพื่อผลักดันหมีควายที่ทำร้ายชาวบ้าน ต.สมบูรณ์ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น เริ่มขึ้นในช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันประชุมวางแผนในการค้นหาหมีควาย โดยตลอด 2 วันที่ผ่านมาแม้จะมีชาวบ้านพบตัวหมีควาย แต่ก็ไม่สามารถปิดล้อมและยิงยาสลบได้ ทำให้วันนี้เจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนแผนจากการค้นหาเพื่อยิงยาสลบ มาใช้มาตรการผลักดันหมีควายที่อาจจะหลบซ่อนอยู่ในป่าใกล้กับหมู่บ้านให้ออกไปไกลจากหมู่บ้านมากที่สุด หลังจากลองใช้มาตรการต่างๆแล้ว แต่ไม่เป็นผล
โดยแผนการผลักดันนั้น ได้มีการแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกเป็น 7 ชุด เดินเท้าปูพรมพร้อมกับจุดประทัดเป็นระยะ เริ่มตั้งแต่แนวป่าที่อยู่ใกล้หมู่บ้านไปจนถึงท้ายป่า โดยมีสมมุติฐานว่า หากหมีควายยังหลบซ่อนอยู่ที่ใดที่หนึ่งของป่าใกล้กับหมู่บ้าน ก็อาจะปรากฏตัวหรือวิ่งออกจากป่าเมื่อได้ยินเสียงประทัดหรือพบเห็นเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้ง 7 ชุดต่างปฏิบัติภารกิจด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยของตนเองและทีม ขณะเดียวกันเจ้าที่อีกส่วนที่เหลือพร้อมอาปืนและปืนยิงยาสลบ ได้กระจายกำลังกันประจำอยู่อีกฝั่งของแนวป่า โดยใช้อากาศยานไร้คนขับและกล้องส่องทางไกล คอยดูความเคลื่อนไหว และคอยตรวจตราดูว่าหมีควายจะปรากฏตัวหรือไม่ ซึ่งจากการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวก็ยังไม่พบตัวหมีควายตามสมมุติฐาน จึงมีความเป็นไปได้ว่า หมีควายตังดังกล่าวอาจหนีออกไปไกลจากเขตป่าชุมชนแล้ว แต่ถึงนั้นเจ้าหน้าที่ก็ยังต้องเฝ้าระวัง พร้อมกับเตรียมวางแผนในการป้องกัน
นายอนันต์ ปิ่นน้อย ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 กล่าวว่า ในช่วงค่ำวันนี้เจ้าหน้าที่จะใช้โดรนติดตั้งกล้องอินฟราเรดขึ้นบินเพื่อให้มั่นใจว่าหมีควายยังอยู่ในป่าใกล้ชุมชนหรือไม่ และยังจะมีโดรนติดตั้งกล้องอินฟราเรดอีกอย่างน้อย 4 ลำที่จะนำมาสนับสนุนการค้นหาหมี รวมทั้งนำกรงดักสัตว์มาใช้ในการดักหมีโดยใช้เหยื่อล่อ ซึ่งพื้นที่ที่จะนำไปติดตั้งเป็นบริเวณที่พบร่องรอยของหมีและคาดว่าหมีจะกลับมานอน ส่วนแหล่งที่มาที่ไปของหมีว่ามาจากไหนจะต้องรอให้พบตัวหมีก่อนจึงจะสามารถชี้ชัดหรือนำสืบได้