ไผ่ ดาวดิน เปิดใจเผาหมายเรียกตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เพราะเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพความเป็นคน
วันที่ 25 สิงหาคม 2563 จากกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาชนอีสานเพื่อประชาธิปไตย หรือ นปป. ได้ตั้งเวทีปราศรัยในชื่อ “ไทบ้านสิบ่ทน คนอีสานสิปลดแอก” ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่น เมื่อช่วงเย็นวานนี้ โดย แกนนำกลุ่ม นปป.ได้ขึ้นบนเวทีเพื่ออ่านแถลงการณ์ของกลุ่ม ใน 3 ข้อหลัก คือหยุดคุกคามประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ พร้อมทั้งร่วมกันชู 3 นิ้วแสดงสัญลักษณ์ในการเรียกร้องให้ประชาธิปไตยกลับคืนสู่ประชาชน ท่ามกลางสายฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
โดยนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ได้ร่วมตัวกันยืนอยู่ที่หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมทั้งแสดงหมายเรียกของ สภ.เมืองขอนแก่น โดยให้เข้าพบพนักงานสอบสวน ในวันที่ 28 ส.ค.2563 เวลา 10.45 น. ก่อนจะทำการเผาหมายเรียกดังกล่าวไป
นายจตุภัทร์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ทางกลุ่มถูกตำรวจออกหมายเรียกแล้วทั้งหมด 2 คน เกี่ยวกับความผิด ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พรบ.ควบคุมโรค ยิ่งทำให้ทางกลุ่มมีความโกรธมากยิ่งขึ้น เป็นการตอกย้ำว่ารัฐบาลออก พรก.ฉุกเฉินมาควบคุมคนมากกว่าควบคุมโรค และมองว่าหมายเรียกของทางตำรวจ เปรียบเสมือนน้ำหมึกที่พิมพ์ลงในกระดาษเพื่อจำกัดสิทธิและเสรีภาพความเป็นคนที่พูดความจริงและเห็นต่างทางการเมือง ที่ออกมาเรียกร้องขับไล่รัฐบาล เพื่อต้องการจะเห็นประเทศนี้พัฒนาดีขึ้นเท่านั้น และข้อหาในลักษณะดังกล่าวไม่ได้ต้องการความถูกต้องทางกระบวนการยุติธรรม แต่ออกมาเพื่อกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้ามเท่านั่น จึงตัดสินใจที่เผามันทิ้ง และการออกหมายจับแกนนำที่ขึ้นเวทีปราศรัย เป็นวิธีคิดแบบรัฐที่ทำได้ฝ่ายเดียว ที่ไม่ถูกต้องและเป็นธรรม เพราะการทำงานของรัฐบาล ประชาชนต้องมีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน ตรวจสอบความถูกต้อง ความโปร่งใสได้อย่างเปิดเผย โดยในวันที่ 27 ส.ค. กลุ่มผู้ชุมนุม จะบุก กทม.ปักหลักชุมนุมที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ และวันที่ 28 ส.ค. จะเคลื่อนทัพไปที่ สน.สำราญราษฎร์ เพื่อไปรายตัวตามหมายเรียก และเรียกร้องใน 3 ข้อหลัก และแสดงพลังในการทวงคืนประชาธิปไตยกลับสู่ประชาชนต่อไป ขณะที่หมายเรียกของ สภ.เมืองขอนแก่น ได้ให้ทนายประสานกับตำรวจแล้วว่าขอเลื่อนวันเข้ารายตัวเป็นวันที่ 10 กันยายน 2563 โดยจะมีการนัดรวมกลุ่มไปแสดงพลังที่ สภ.เมืองขอนแก่นด้วย